กทม.เตรียมยื่นหนังสือทวงเงินอุดหนุนค่ารถดับเพลิงรัฐบาลสัปดาห์หน้า พร้อมหาช่องงดเว้นภาษีนำเข้า-หน้าท่า ใช้ข้อกฎหมายใหม่ยกพระราชกำหนดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 มาตรา 12 เพื่อความมั่นคงของประเทศความผาสุกของประชาชนเป็นหลักขอยกเว้น
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาข้อตกลงซื้อขายรถ เรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมฯ เป็นนัดแรกว่า จากการหารือของคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาในเรื่องการดูแลผลประโยชน์ของ กทม. และประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากการซื้อรถดับเพลิง ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการฯเห็นว่า รัฐบาลซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดซื้อมาตั้งแต่ต้นก็ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ
ดังนั้น ทางคณะกรรมการฯ จึงเตรียมทำหนังสือไปทวงถามรัฐบาลว่าในส่วนของการร่วมรับผิดชอบ ใน 2 ประเด็น คือ การจ่ายเงินในอัตราส่วน 60 : 40 ซึ่งรัฐบาลต้องจ่ายงบอุดหนุนมาให้กทม. 60% และเรื่องการแก้ไขภาษี ว่า รัฐบาลควรงดเว้นภาษี นำเข้าและภาษีหน้าท่า ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 ซึ่งบัญญัติว่า เพื่อประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ ได้หรือไม่ เนื่องจากตามหรือเพื่อความผาสุกของประชาชน หรือเพื่อความมั่นคงของประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีอำนาจประกาศลดอัตราอากร สำหรับของใดๆ จากอัตราที่กำหนดไว้ ในพิกัดอัตราศุลกากร หรือยกเว้นอากร สำหรับของใดๆ หรือเรียกเก็บอากรพิเศษ เพิ่มขึ้นสำหรับของใดๆ ไม่เกินร้อยละ 50 ของอัตราอากรที่กำหนดไว้ ในพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับของนั้น ทั้งนี้ โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขใดๆ ไว้ด้วยก็ได้
พญ.มาลินี กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลจะอ้างว่าไม่สามารถจ่ายเงิน 60% เพราะต้องรอให้ กทม.รับรถก่อนตามระเบียบกระทรวงการคลัง นั้น คณะกรรมการฯ จะชี้แจงไปว่า การจัดซื้อรถดับเพลิงดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ ไม่ใช่การจัดซื้อในระบบพัสดุปกติ ดังนั้นรัฐบาลน่าจะจ่ายเงินอุดหนุนในส่วนนี้ได้
“อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการฯ ทบทวนแล้วเห็นชอบก็จะสามารถส่งหนังสือไปยังรัฐบาลได้ภายในสัปดาห์หน้า และอาจมีความจำเป็นที่จะต้องหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี มท.1 และรมช. ที่ดูแลเรื่องนี้ เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ที่สุดแล้วหาก กทม. ชนะคดี และกทม.ไม่ได้รับรถดับเพลิงมาใช้ ในส่วนของภาษีนำเข้าและภาษีหน้าท่า ทางบริษัท สไตเออร์ฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายภาษีทั้งหมด” พญ.มาลินี กล่าว
ประธานคณะกรรมการฯ กล่าวด้วยว่า และเพื่อเป็นการติดตามแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด คณะกรรมการฯ จะมีการประชุมร่วมกันทุกวันพุธด้วย