“นริศรา” เผยประชุมบอร์ด กยศ.26 มีนาคมนี้ เตรียมเยียวยาเด็กตกค้างชวดเงินกู้ 11,000 คน พิจารณาว่าจะกู้ย้อนหลังได้หรือไม่ ใช้วงเงินเท่าไหร่ หาก กยศ.มีเงินไม่พอ จะของบกลาง
วันนี้ (12 มี.ค.) นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้ประชุมร่วมกับ นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อติดตามผลตาม มติ ครม.เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีความคืบหน้าการแบ่งสัดส่วนการกู้ยืมสายอาชีพมากกว่าสายสามัญ และขอความร่วมมือแก้ปัญหาเด็กตกค้าง 11,000 ราย ซึ่งอยู่ในโควต้าของมหาวิทยาลัย ต่อมามหาวิทยาลัยโดนตัดโควตา เนื่องจากปีนี้มีเด็กมาเรียนระดับปริญญาตรีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 5,000 ราย ประกอบกับตัวเลขยังค่อนข้างสับสนขอให้ สกอ.ไปรวบรวมตัวเลข ผู้กู้รายเก่า ผู้กู้รายใหม่ รวมถึงผู้กู้รายเก่าแล้วมากู้ต่อระดับปริญญาตรี ว่ามีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ ต่อไปคงต้องทำแยกบัญชี
“ผู้กู้กองทุน กยศ.ม.6 หรือผู้กู้รายเก่าไม่ได้เงินกู้อัตโนมัติทุกคน มักจะมีการพิจารณากันใหม่ นอกจากนี้ ยังผู้กู้รายใหม่มาขอกู้เมื่อเรียนระดับปริญญาตรี จึงมีการเกิดทับซ้อนกัน ส่วนโควตามหาวิทยาลัยจะรู้ล่วงหน้า 1 หรือ 2 เดือน ว่ามหาวิทยาลัยได้โควตาจำนวนเท่าไหร่ ทว่าปีนี้โควตาของมหาวิทยาลัยถูกตัดออกไปจำนวนหนึ่ง เนื่องจากผู้กู้รายเก่ามีจำนวนเกิน ทาง กยศ.ไปลดจำนวนยอดผู้กู้รายใหม่ ส่วนมหาวิทยาลัยประกาศสิทธิกู้ กยศ.ไปแล้วและเด็กคิดว่าตัวเองได้สิทธิ์กู้ จึงเกิดปัญหาเด็กตกค้าง 11,000 ราย”
นางสาวนริศรา กล่าวว่า นักศึกษาเดือดร้อน บางรายเรียนได้ 1 เทอม ต้องลาออกกลางคันและหยุดเรียน บางรายเรียนปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 มีความคิดจะลาออก เพราะมีปัญหาค่าเทอม ขอแนะนำให้นักศึกษารีบไปติดต่อมหาวิทยาลัย โดยในวันที่ 26 มีนาคม จะประชุมบอร์ด กยศ.เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กตกค้าง
ทั้งนี้ บอร์ด กยศ.จะมาพิจารณาดูว่าจะให้นักศึกษามีสิทธิกู้ย้อนหลัง ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ได้หรือไม่ จะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ถ้า กยศ.มีเงินไม่พอ อาจจะขอจากงบกลาง สำหรับปัญหานี้ กยศ.ต้องรับผิดชอบ ควรมีระบบการบริหารแบบยืดหยุ่น ถ้าหากให้กู้ย้อนหลังไม่ได้ จะพิจารณาให้เป็นผู้กู้รายใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นจะยึดหลักฐานการขอกู้ของนักศึกษาเป็นหลัก
