วธ.ประกาศตัวหนุนงานบุญปลอดเหล้า พร้อมเป็นแม่งานร่วมกับ สธ.ช่วยรณรงค์ลดอุบัติเหตุ
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ศูนย์ประชุมวิจัยจุฬาภรณ์ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังประกาศเจตนารมณ์ให้งานบุญประเพณี วัฒนธรรม ในสังคมไทยปลอดเหล้า ในงานเวทีสาธารณะ “สานดวงใจสร้างสุข ด้วยบุญประเพณีปลอดเหล้า” ว่า การที่เครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง วธ.กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และประชาคมงดเหล้า 75 จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์เพื่อขับเคลื่อนให้งานบุญประเพณีปลอดเหล้าของเครือข่ายนั้น สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรม และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันที่ต้องการสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในสังคม ด้วยการใช้มิติวัฒนธรรมแก้ปัญหาประเทศ และถือเป็นโอกาสอันดีของการสร้างค่านิยมให้แก่สังคมไทยให้กลับมาสนใจเรื่องคุณค่าและบทบาทหน้าที่ของพิธีกรรมและตัวบุญในงานประเพณีต่างๆ รวมทั้งยังเป็นการลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม ของการเกิดอุบัติเหตุและความรุนแรง จากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานบุญประเพณีอีกด้วย
รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กระแสทุนนิยมที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้คนหันมาดื่มสุรา สิ่งของมึนเมากันมากขึ้น การที่ทุกฝ่ายร่วมรณรงค์และเห็นความสำคัญของการรณรงค์งดเหล้าจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสังคม ผมจึงอยากเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันรณรงค์งดเหล้าในวันเทศกาลงานบุญทุกประเภท อย่าใช้งานบุญเป็นงานแฝงเพื่อดื่มเครื่องดื่มมึนเมา เพราะจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์งานบุญ 100% อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันสงกรานต์ที่จะถึงนี้ วธ.รับเป็นแม่งานในการวางกรอบงานสงกรานต์ทั้งประเทศ ดังนั้น ตนจะนำเรื่องการรณรงค์งดดื่มสุรา บรรจุเป็นประเด็นหลักของการรณรงค์ครั้งนี้ เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นในงานบุญของทุกปี
นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของเครือข่ายประชาคมงดเหล้า ระหว่างเดือนมกราคม- ธันวาคม ในปี 2551 พบว่า มีงานบุญและงานประเพณีจำนวนมากถึง 947 งาน ทั่วประเทศที่กำลังตกอยู่ในภาวะเปื้อนน้ำเมา แต่คาดว่า จะมีมากกว่านี้ อีกทั้งยังมีตัวเลขค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเหล้าในงานบวชและงานศพ เฉลี่ย 20,000-25,000 บาท และจากการสำรวจงานปอยในภาคเหนือ จำนวน 10 หมู่บ้าน พบว่า ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเหล้าคิดเป็น 32% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่ค่าอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ 53% และที่น่าตกใจ คือ เป็นเงินทำบุญเพียง 15% เท่านั้น ซึ่งถือว่าค่าเหล้าสูงกว่างานบุญถึง 1 เท่าตัว อย่างไรก็ตามยังมีพื้นที่ดีๆ ที่สวนกระแสเป็นงานบุญประเพณีปลอดเหล้าต้นแบบ จำนวน 10 แห่ง เช่น อ.โพธิศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ที่ประกาศเป็นอำเภอปลอดเหล้า และสามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนมากถึง 16 ล้านบาทต่อปี
“การประกาศเจตนารมณ์เพื่องานบุญประเพณีปลอดเหล้า จะเพิ่มพื้นที่ต้นแบบบุญประเพณีปลอดเหล้า และให้ความสำคัญกับเยาวชนในการสืบทอดเจตนารมณ์ จับมือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ บังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551 ให้เกิดผลบังคับใช้อย่างจริงจัง ยกระดับงานบุญปลอดเหล้าให้เป็นนโยบายสาธารณะทั้งในระดับชาติจนถึงระดับชุมชน และร่วมเปิดโปงเบื้องหลังของธุรกิจแอลกอฮอล์ที่สนับสนุนงานบุญให้เปื้อนเหล้าเพื่อบดบังภาพลักษณ์ที่เป็นสินค้าอันตรายและเป็นอบายมุข” ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าว
