“จุรินทร์” ชี้เรียนฟรี 15 ปี ปี 2553 ต้องตั้งงบใหม่ 3 หมื่นล้านบาท ย้ำให้ผู้ปกครองรับเงินจากโรงเรียนพร้อมลงนาม และเลข 13 หลักของนักเรียนกำกับ เชื่อ พ่อแม่รักลูกไม่นำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
รร.เชอราตัน แกรนด์ ลากูนา ภูเก็ต วันนี้ (2 มี.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ จะใช้งบประมาณปี 2552 จำนวน 18,000 ล้านบาท สำหรับงบประมาณปี 2553 จะต้องตั้งงบใหม่ จำนวน 30,000 ล้านบาท สำหรับงบประมาณในส่วนของชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน จะใช้วิธีให้นักเรียน หรือผู้ปกครองมาเซ็นรับเงินสดโดยตรงที่โรงเรียน โดยมีเลขบัตรประจำตัวนักเรียน 13 หลักกำกับ เมื่อผู้ปกครองนำเงินไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้ตามความสมัครใจ จะซื้อที่ไหน อย่างไรก็ได้ ภายในวงเงินที่รัฐจัดให้ ส่วนชุดนักเรียนควรซื้ออย่างน้อย 2 ชุด แต่ต้องนำใบเสร็จมาแสดงต่อโรงเรียน เพื่อให้เห็นว่า ได้นำเงินไปใช้ตามเป้าหมายของรัฐบาลจริงๆ หากไม่มีใบเสร็จมาแสดง ควรนำชุดนักเรียน หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ซื้อมาแสดง
“เชื่อว่า ผู้ปกครองทุกคนรักลูกของตนเอง คงไม่มีใครนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนให้ลูก เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ส่วนตำราเรียน เบื้องต้นจะจัดให้นักเรียนยืมเรียนเป็นเวลา 3 ปี แต่มีผู้เสนอความเห็นว่า ควรให้เด็กเลย เพราะเด็กใช้เรียนจะต้องเขียน ขีดเส้นใต้ในเนื้อหา บันทึกย่อลงในตำรา เพื่อใช้อ่านทบทวนก่อนสอบ”
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีงบประมาณจำกัด จึงกำหนดให้ยืมเรียนเป็นเวลา 3 ปีไปก่อน ในอนาคตจะทบทวนอีกครั้ง ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 โดยทุกสถานศึกษาของรัฐ รวมถึงระดับอาชีวศึกษา สถานศึกษาเอกชน ได้รับสิทธิเรียนฟรี และเอกชนยังได้รับเงินอุดหนุนรายหัวเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 70
รร.เชอราตัน แกรนด์ ลากูนา ภูเก็ต วันนี้ (2 มี.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ จะใช้งบประมาณปี 2552 จำนวน 18,000 ล้านบาท สำหรับงบประมาณปี 2553 จะต้องตั้งงบใหม่ จำนวน 30,000 ล้านบาท สำหรับงบประมาณในส่วนของชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน จะใช้วิธีให้นักเรียน หรือผู้ปกครองมาเซ็นรับเงินสดโดยตรงที่โรงเรียน โดยมีเลขบัตรประจำตัวนักเรียน 13 หลักกำกับ เมื่อผู้ปกครองนำเงินไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้ตามความสมัครใจ จะซื้อที่ไหน อย่างไรก็ได้ ภายในวงเงินที่รัฐจัดให้ ส่วนชุดนักเรียนควรซื้ออย่างน้อย 2 ชุด แต่ต้องนำใบเสร็จมาแสดงต่อโรงเรียน เพื่อให้เห็นว่า ได้นำเงินไปใช้ตามเป้าหมายของรัฐบาลจริงๆ หากไม่มีใบเสร็จมาแสดง ควรนำชุดนักเรียน หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ซื้อมาแสดง
“เชื่อว่า ผู้ปกครองทุกคนรักลูกของตนเอง คงไม่มีใครนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนให้ลูก เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ส่วนตำราเรียน เบื้องต้นจะจัดให้นักเรียนยืมเรียนเป็นเวลา 3 ปี แต่มีผู้เสนอความเห็นว่า ควรให้เด็กเลย เพราะเด็กใช้เรียนจะต้องเขียน ขีดเส้นใต้ในเนื้อหา บันทึกย่อลงในตำรา เพื่อใช้อ่านทบทวนก่อนสอบ”
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีงบประมาณจำกัด จึงกำหนดให้ยืมเรียนเป็นเวลา 3 ปีไปก่อน ในอนาคตจะทบทวนอีกครั้ง ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 โดยทุกสถานศึกษาของรัฐ รวมถึงระดับอาชีวศึกษา สถานศึกษาเอกชน ได้รับสิทธิเรียนฟรี และเอกชนยังได้รับเงินอุดหนุนรายหัวเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 70