xs
xsm
sm
md
lg

30 ปีเพิ่งคืบ! วธ.เดินหน้าดัน “เรือสำรวจโบราณคดีใต้น้ำ” ลำแรก “แววมยุรา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
วธ.เผยโบราณคดีใต้น้ำไทยติดอันดับต้นอาเซียน อึ้งกว่า 30 ปีเช่าเรือประมงสำรวจ ล่าสุดต่อโครงสร้างลำแรกชื่อ “แววมยุรา” คืบกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มสำนักโบราณคดีใต้น้ำเร่งจัดทำแผนแม่บทขออัตราเพิ่ม-ซื้อเรดาร์


เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พาณิชยนาวีจันทบุรี กลุ่มโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร ว่าการดำเนินงานโบราณคดีใต้น้ำมีมาตั้งแต่ พ.ศ.2517 หรือ 35 ปีมาแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนให้อบรมนักประดาน้ำจากประเทศเดนมาร์ก มีการจัดเก็บข้อมูลและอนุรักษ์เป็นระบบ ทำให้โบราณคดีใต้น้ำของไทยอยู่ในอันดับต้นในภูมิภาคอาเซียน แต่ทีมนักประดาน้ำของไทยมีจำนวนเพียง 11 คน คือนักโบราณคดีใต้น้ำ 2 คน ช่างสำรวจ 9 คนที่โอนมาจากทหารเรือ และขณะนี้กำลังประสบปัญหาขาดแคลนกำลังคน เพราะช่างสำรวจจำนวนหนึ่งได้เกษียณอายุราชการ จึงไม่เพียงพอกับการทำงานสำรวจซากเรือจมใต้ทะเล การจัดเก็บข้อมูลและดูแลอนุรักษ์รักษาที่ขณะนี้เรือโบราณคดีใต้น้ำลำแรกที่ได้รับการอนุมัติต่อเรือราคา 7 ล้านบาทใกล้จะต่อโครงสร้างเรือเสร็จสมบูรณ์ โดยต้องหางบประมาณมาจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม

ปลัด วธ.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากลุ่มโบราณคดีใต้น้ำไม่ได้รับการส่งเสริมเท่าที่ควร จึงได้ให้จัดทำแผนแม่บทหรือมาสเตอร์แพลน ส่งผ่านไปที่กรมศิลปากรและต่อมายังสำนักปลัดวธ.เพื่อชี้แจงสำนักงบประมาณในการของบเพิ่มเติม ตลอดจนขออัตรากำลังคนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพิ่ม ทั้งนี้ ให้จัดทำขยายโครงสร้างเนื้องานและปฏิบัติงานขอบเขตของงานให้มากขึ้น โดยต้องทำแผนที่ของแหล่งโบราณคดีใต้น้ำว่ามีทั้งหมดกี่แห่ง และแต่ละปีจะสำรวจที่ไหนบ้าง ทั้งนี้เรือต่อโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว และจะได้หางบสนับสนุนจัดซื้ออุปกรณ์สำรวจใส่เรือในเบื้องต้น

ด้าน นายเดชา พรไทย นายช่างสำรวจโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร กล่าวว่า ช่วง 30 ปีที่ผ่านมากลุ่มโบราณ คดีใต้น้ำจะได้รับงบประมาณปีละกว่า 1 ล้านบาท เป็นค่าจ้างลงทุน ค่าจ้างแรงงาน อุปกรณ์ ค่าเช่าเรือประมง เรือท่อง เที่ยวมาใช้ทำการสำรวจต่อเที่ยว 5,000-6,000 บาท โดยเพิ่งจะมีเรือโบราณคดีใต้น้ำเป็นของกลุ่ม ที่ขณะนี้ต่อโครงสร้างเรือไปแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่อู่ต่อเรือในกรุงเทพฯ คาดว่าแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม ปี 2552 จากนั้นนำเรือดังกล่าวไปไว้ที่ท่าแฉลบ จ.จันทบุรี โดยเรือกว้าง 5.5 เมตร และยาว 20 เมตร จะแล่นระวางน้ำภายใต้รัศมี 60-100 ไมล์ จำนวนคนบรรจุได้ 20 คน เรือชื่อ “แววมยุรา” ลำเรือทาสีม่วงชื่อและสีเกี่ยวข้องกับโบราณคดีใต้น้ำ ส่วนอุปกรณ์ที่มีอยู่ขณะนี้คือชุดดำน้ำ แต่ที่ต้องจัด หาซื้อคือเรดาร์นำร่องเรือและสำรวจซากเรือจม

“ขณะนี้โบราณคดีใต้น้ำของไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ มีความทันสมัย และอยู่อันดับต้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน และมีแผนจะทำการสำรวจเพิ่มเติมจากบริเวณเกาะคราม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นแหล่งเรือจมที่พบเครื่องถ้วยชามสังคโลกสมัยสุโขทัย อายุราว 600 ปี และเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช แหล่งเรือจมสำเภา พบเครื่องถ้วยชามสังคโลกสมัยอยุธยา อย่างไรก็ตามปัญหาขณะนี้อัตรากำลังนักประดาน้ำที่จะมีการเกษียณอายุราชการจำนวน 4 คน จะเหลือทีมงานเพียง 7 คนเท่านั้น ที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน” นายเดชา นักโบราณคดีใต้น้ำกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น