ส.ต.ท.สังกัดกองพิสูจน์หลักฐาน ขี่ จยย.ไปดูแลบ้านญาติในย่านสายไหม พอเลี้ยวรถกลับก็โดนพลทหารสังกัด สน.ผบ.ดม.ขี่ จยย.มาสอยท้ายจนคว่ำไปทั้งคู่ พอลุกขึ้นมาได้ก็ต่อยกันนัว ฝ่ายตำรวจอ้างชักปืนยิงขึ้นฟ้าขู่ว่าเป็นตำรวจ ให้คุยกันก่อน แต่ฝังทหารไม่ฟัง แถมวิ่งเข้าใส่เลยยิงใส่ไปจนอีกฝ่ายตายคาที่
เมื่อเวลา 11.45 น.วันนี้ (31 ม.ค.) ร.ต.ท.ชัยณรงค์ แดงนกขุ้ม พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สายไหม รับแจ้งมีผู้ชายถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 7/15 หมู่ 5 ซอยสายไหม 17 ถนนสายไหม แขวงและเขตสายไหม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลตำรวจ และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมี พล.ต.ต.ปัญญา เคลือบทอง รอง ผบช.ภ.5 เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่พบศพพลทหารวีระกิจ คงปรางค์ ทหารสังกัด กรม สห.ทอ.สน.สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ข้าง รถ.จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็กซ์วัน สีเขียวดำ บริเวณหน้ากากรถติดสติกเกอร์ตราโล่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยผู้ตายสวมหมวกนิรภัยเต็มใบสีขาว ไม่มีกระจกบังหน้า สวมเสื้อคอปกสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีแดง รองเท้าแตะหูคีบสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 มม.เข้าที่ จมูก 1 นัด และที่ลำตัว 3 นัด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบ ส.ต.ท.ชูชีพ ลี้สุวรรณ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองพิสูจน์หลักฐาน แผนกตรวจสอบอาวุธปืน ยืนรอมอตัวใอยู่ข้างรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปทำการสอบปากคำที่ สน.สายไหม
ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงนั้นไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด โดยหลังจากได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด ก็จึงพากันวิ่งออกมาดูก็พบว่า ผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
จากการสอบสวน ส.ต.ท.ชูชีพ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิงพลทหารวีระกิจเอง โดยก่อนเกิดเหตุตนขับขี่รถ จยย.ยี่ยามาฮ่า รุ่นเอ็กวัน มาดูแลบ้านญาติซึ่งเป็นหลังที่เกิดเหตุ เนื่องจากญาติตนไปทำธุระที่ จ.เชียงราย แล้วฝากให้ตนคอยแวะเวียนมาดูแลบ้านให้ ระหว่างที่ตนกำลังเลี้ยวรถกลับ ก็ถูกผู้ตาย ซึ่งขับขี่ รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ คันดังกล่าว เข้ามาชนกับรถ จยย.ตน อย่างจัง จนล้มคว่ำลงทั้งคู่ จึงทำให้เกิดมีปากเสียงและชกต่อยกัน
“จากนั้นผมก็ถอยหลังออกมาแล้วบอกเขาว่า ผมเป็นตำรวจ มีอะไรค่อยพูดกันก็ได้ แล้วชักปืนลูกโม่ .22 ออกมายิงขึ้นฟ้าไป 1 นัด แต่เขาไม่หยุดกลับวิ่งเข้ามาหาผมอีก ผมเลยยิงปืนใส่ไปเขาจนล้มลง หลังจากนั้นผมขว้างปืนที่ใช้ลงไปในบ่อน้ำข้างบ้าน แล้วยืนรอมอบตัวกับตำรวจ” ส.ต.ท.ชูชีพ ให้การ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้นักประดาน้ำลงไปงมอาวุธปืนของ ส.ต.ท.ชูชีพ ที่อ้างว่า หลังก่อเหตุได้ขว้างอาวุธปืนที่ใช้ยิงผู้ตายลงไปในบ่อน้ำ พร้อมทั้งแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับ ส.ต.ท.ชูชีพ และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
