หารือแก้ปัญหานักเรียนนักเลง อุเทนฯ-ปทุมวัน ได้ 6 มาตรการป้องกันแก้ไข ให้ สกอ.เป็นตัวกลางรับนักศึกษาปี 1 และให้เรียนวิชาสามัญร่วมกัน ก่อนที่จะแยกย้ายไปเรียนสาขาเฉพาะ จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้แก่นักศึกษาปี 1 ได้ทำร่วมกัน อธิการบดีปทุมวันโบ้ยสื่อเสนอภาพ “สถาบันคู่อริ” ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกบาดหมาง และตกเป็นจำเลยสังคม
วันนี้ (11 ก.พ.) นายสมเกียรติ จงประสิทธิพร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน นายสมพงษ์ ชีไธสง คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย นายโอภาส เขียววิชัย ที่ปรึกษาด้านระบบบริหาร สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ผู้แทนจากตำรวจ นอกจากนี้ยังมีอาจารย์ ตัวแทนสมาคมศิษย์เก่า ร่วมประชุมประมาณ 30 คน เพื่อหามาตรการป้องกันนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท และทำร้ายกัน ซึ่งใช้เวลาประชุมเกือบ 3 ชั่วโมง
นายสมเกียรติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติออก 6 มาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน 1 ชุด ประกอบด้วย คณาจารย์ นักศึกษา ศิษย์เก่า ตัวแทนจาก สกอ. และตำรวจ เพื่อทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกัน 2.จัดประชุมร่วมกัน โดยให้มีการตั้งผู้ประสานงานเพื่อเป็นตัวกลางดำเนินการของทั้ง 2 สถาบัน 3.ให้ สกอ.เป็นตัวกลางรับนักศึกษาปี 1 และให้เรียนวิชาสามัญร่วมกัน ก่อนที่จะแยกย้ายไปเรียนสาขาเฉพาะ 4.สกอ.เป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาจารย์ 5.จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้แก่นักศึกษาปี 1 ได้ทำร่วมกัน พร้อมกันนี้ให้ สกอ.จัดรับน้อง และ 6.ให้ศิษย์เก่ารณรงค์ด้านพัฒนาความคิด กิจกรรมนักศึกษาให้ถูกต้องต่อสังคม
ด้าน นายโอภาส กล่าวว่า การที่ทั้ง 2 สถาบันให้ สกอ.รับนักศึกษานั้น เชื่อว่าปีนี้คงดำเนินการไม่ทันแน่นอน เพราะเวลากระชันชิดเกินไป คงต้องเป็นปีถัดไป
ถามว่าทำไม่เราไม่ใช้ไม้แข็งกับนักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาท นายโอกาส ตอบว่า จริงๆ แล้วทั้ง 2 สถาบันมีสภามหาวิทยาลัย ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมสภามหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่งเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่จะแถลง 6 มาตรการ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขอให้สื่อมวลชนทุกคนเห็นแก่ชื่อเสียงของทั้ง 2 สถาบัน เพราะสื่อเสนอข่าวว่า “สถาบันคู่อริ” ทะเลาะ วิวาท ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต ซึ่งเป็นการเสนอข่าวโดยที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง เราก็ไม่รู้ สื่อก็ไม่รู้ ต้นเหตุคืออะไร แต่การเสนอออกไปอย่างนั้นส่งผลให้ 2 สถาบันตกเป็นจำเลยของสังคม พอใช้คำว่า สถาบันคู่อริ เป็นการสร้างความแค้นสะสม สร้างความบาดหมางให้ 2 แห่งใช้ความรุนแรงเพราะมองว่าเป็นศัตรูกัน
ถ้อยคำที่นายสมเกียรติพูดนั้นสร้างความไม่พอใจแก่สื่อมวลชน และเมื่อมีการถามกลับไปว่าภาพนักศึกษาตีกันไม่ชัดหรือ ทำให้นายสมเกียรติและอาจารย์ที่มาร่วมประชุมเกือบทั้งหมดรีบเดินออกจากห้องประชุมทันที
และระหว่างที่เกิดความชุลมุนระหว่างสื่อและกลุ่ม อธ.ปทุมวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของผู้ที่ถูกลูกหลงจากเหตุนักศึกษาทั้งสองสถาบันทะเลาะวิวาทกันได้สอบถามถึงความรับผิดชอบเพราะค่ารักษาน่าจะถึงหลัก 1 แสนบาท แต่ไม่มีผู้ใดในที่ประชุมยืดอกรับผิดชอบแม้แต่รายเดียว และได้ให้รายละเอียดเพิ่มว่า นายสุเทพ วิวัฒนเจริญชัย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวกำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.หัวเฉียว มีอาการกระดูกซี่โครงร้าว กะโหลกศีรษะแตก ในขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว
