สำนักพุทธฯเผย สถิติพระเณรทำผิดปี 51 พุ่ง บิณฑบาตไม่สำรวม-รับแต่ปัจจัยครองแชมป์ 305 รูป รองลงมาปักกลดย่านชุมชน เรี่ยไร ติดยา ส่วนมารศาสนาใช้ผ้าเหลืองหากินมีเพียง 5 คน เจ้าคณะผู้ปกครองจับสึก 53 รูป ส่งตำรวจดำเนินคดี 4 คน
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พ.ศ.) เปิดเผยว่า ในรอบปี 2551 ที่ผ่านมาทาง พ.ศ.ได้มีการสำรวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพระภิกษุสามเณรที่มีอาการไม่สมควรแก่สมณะและกลุ่มบุคคลแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ออกบิณฑบาตและเรี่ยไรตามพื้นที่เป้าหมาย เช่น หมู่บ้าน ตลาดที่คนพลุกพล่าน และแหล่งชุมชนต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพิ่มขึ้นจากปี 2550 เนื่องจากมีผู้แจ้งข้อมูลมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ พ.ศ.จะประสานกับเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าร่วมดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกครั้ง
นายอำนาจ กล่าวต่อไปว่า พ.ศ.ได้สรุปผลการปฏิบัติงานประจำเดือนมกราคม-ธันวาคม 2551 ดังนี้ 1.พระภิกษุสามเณรที่มีอาจารไม่สมควรแก่สมณวิสัย คือ บิณฑบาตขาดความสำรวมและรับแต่ปัจจัย 305 รูป ปักกลดตามย่านชุมชนและพักค้างแรมตามบ้านเรือน 36 รูป เรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต 12 รูป เสพยาเสพติดและเล่นการพนัน 1 รูป และปลอมบวช 5 คน รวมทั้งสิ้น 359 รูป/คน
2.เจ้าหน้าที่นิมนต์ไปพบเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์พิจารณาตามแต่จะเห็นสมควร ดังนี้ เจ้าหน้าที่ถวายคำแนะนำ 229 รูป เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ภาคทัณฑ์และสั่งให้กลับสังกัดเดิม 73 รูป เจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการให้ลาสิกขา 53 รูป ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี กรณีปลอมบวช 4 คน และ 3.พระสงฆ์ที่มีอาจารไม่สมควร ส่วนกลาง 104 รูป ส่วนภูมิภาค 255 รูป ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวตนได้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมมส. เรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการของบประมาณจากรัฐบาลเพื่อนำมาดำเนินการป้องกันและแก้ไขต่อไป
นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการ พ.ศ.กล่าวว่า สำหรับมาตรการแก้ปัญหาพระภิกษุสามเณรมีอาจารไม่เหมาะสมในปี 2552 พ.ศ.กำหนดให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดูแลพระสงฆ์บิณฑบาตตอนเช้าตั้งแต่เวลา 04.00 น.ทุกวัน ร่วมกับพระวินยาธิการอย่างใกล้ชิด เมื่อพบพฤติกรรมไม่เหมาะสม หากเป็นพระภิกษุสามเณรส่งให้เจ้าคณะผู้ปกครองลงโทษ หากเป็นบุคคลทั่วไปส่งให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ ได้มีการจัดสัมมนาถวายความรู้พระวินยาธิการเพื่อหาแนวแก้ไข เพื่อเพิ่มจำนวนพระวินยาธิการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยพยายามของงบประมาณในการดำเนินเพิ่มให้ด้วย
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแล พ.ศ.กล่าวว่า ทางออกของการแก้ปัญหาพระภิกษุสามเณรทำผิดวินัยและการปลอมบวชนั้น ตนจะเร่งให้มีการออกกฎหมายอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมามักเห็นผู้ที่ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนากระทำย่ำยีอยู่บ่อยครั้งทั้งในและนอกประเทศ เนื่องจากไม่มีมาตรการลงโทษชัดเจน ขณะเดียวกันได้มอบให้ พ.ศ.หาวิธีแก้ภาพลักษณ์พระสงฆ์ที่ถูกมองในทางลบให้กลับมาเป็นที่ศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนโดยเร็วที่สุด
