กทม.สั่งเขต-สนย.ตรวจสอบลายเซ็นวิศวกรผู้รับผิดชอบอาคารกันปลอมลายเซ็นอย่างเร่งด่วน ประสาน ป.ป.ท.ขอชื่ออาคาร 33 แห่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมศึกษาแนวทาง ติดป้ายประเภทการใช้อาคารโชว์ให้ประชาชนแจ้งเมื่อมีการใช้ผิดประเภท
นายประกอบ จิรกิตติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ระบุว่า มีการปลอมลายเซ็นวิศวกรผู้รับผิดชอบอาคารเช่นเดียวกับอาคารของซานติก้าผับ เขตวัฒนา เพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคารเช่นเดียวกันในพื้นที่กรุงเทพฯถึง 33 แห่ง ว่า การปลอมแปลงลายเซ็นของวิศวกร เพื่อใช้ในการก่อสร้างนั้น ตนคิดว่า เป็นกรณีที่เกิดได้น้อยราย เนื่องจากในส่วนของเจ้าของอาคารเองก็เป็นผู้ควบคุมอยู่แล้วส่วนหนึ่งเพราะต้องรับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ตนได้มอบหมายให้สำนักการโยธา (สนย.) ดำเนินการตรวจสอบ โดยเร่งรัดให้ได้คำตอบโดยเร็วที่สุด ซึ่งการตรวจสอบนั้นจะมีการประสานไปยัง ป.ป.ท.เพื่อขอข้อมูลอาคารทั้ง 33 แห่งดังกล่าว และนำมาตรวจสอบว่า วิศวกรที่ชื่อปรากฏเป็นผู้รับผิดชอบการสร้างอาคารนั้นชื่อและบุคคลตรงกันหรือไม่ รวมทั้งขอข้อมูลจากวิศวกรคนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ หากพบมีการปลอมแปลงเอกสารก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันทีและหากตรวจสอบ พบว่า มีเจ้าหน้าที่ของ กทม.เข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการลงโทษตามระเบียบเช่นกัน นอกจากนี้ ตนก็จะสั่งการให้ สนย.และเขตตรวจสอบข้อมูลวิศวกรที่ดูแลอาคารในพื้นที่ กทม.เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย โดยให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุด
นายประกอบ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนกำลังศึกษาแนวทางในการติดป้ายประกาศที่อาคาร เพื่อแสดงประเภทการใช้อาคารเพื่อให้ผู้ใช้อาคารต่างๆ ทราบ และหากพบว่ามีการใช้อาคารผิดประเภทก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบหรือ สำนักงานเขตในพื้นที่ได้ นอกจากนี้ จะมีการเร่งรัดผลการตรวจสอบอาคารในส่วนที่เหลือที่ต้องครบกำหนดส่งในเดือน ม.ค.อีกประมาณ 1,000 รายนั้น ก็จะเร่งรัดให้ดำเนินการเร็วที่สุด