xs
xsm
sm
md
lg

“บำเรอ” ปัดยักยอกทรัพย์ สอ.อค.แจงดึง 30 ล.จ่ายเงินเดือนพนักงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“บำเรอ” ปัดข้อกล่าวหา “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ไม่ได้ยักยอกทรัพย์สหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ 30 ล้านบาท อ้าง องค์การค้าฯ ไม่มีเงินเพียงพอจ่ายเงินเดือนพนักงาน จึงนำเงินจากสหกรณ์ไปจ่ายให้ก่อน และชำระคืนให้ภายหลัง ยัน ทำเช่นนี้มาตลอดเป็นปกติ และรีบหาคืนให้เร็วที่สุด
นายบำเรอ ภานุวงศ์
นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ร้องเรียนกล่าวหาว่า มีผู้บริหารระดับสูงของ สกสค.ยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา (สอ.อค.) จำนวน 30 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ได้ทำรายงานข้อเท็จจริงชี้แจงเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดเสนอต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการแล้ว ส่วนทางตำรวจจะเรียกสอบสวนเรื่องนี้เมื่อใดนั้น ก็พร้อมเข้าชี้แจงเสมอ เพราะไม่ได้มีการยักยอกทรัพย์แต่อย่างใด ซึ่งการยักยอกทรัพย์คือการนำทรัพย์สินผู้อื่นมาเป็นทรัพย์สินของตัวเอง แต่ตนไม่ได้ทำเช่นนั้น เพียงแต่องค์การค้าฯ มีเงินไม่พอที่จะจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน จึงต้องนำเงินส่วนนี้มาใช้จ่ายก่อนเหมือนครั้งที่ผ่านมา และจะชำระหนี้คืนให้ภายหลัง ซึ่งก็ทำลักษณะนี้มาตลอด โดยขอยืนยันว่า จำนวนเงินเพียงเท่านี้องค์การค้าฯ มีเงินใช้คืนอยู่แล้ว และจะรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุด

“องค์การค้าฯ ในเวลานี้เริ่มดีขึ้น มีรายได้เพิ่ม ขาดทุนลดลง และมีค่าใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งหนี้สินที่กู้จากสถาบันการเงินก็เหลือประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท และเมื่อรวมกับหนี้ภาคการค้าแล้ว องค์การค้าฯ จะมีหนี้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งปัญหาหนี้สินขององค์การค้าฯ นั้น จะต้องหารือกับ รมว.ศึกษาธิการ โดยขณะนี้ได้ส่งงบดุลให้คณะที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ได้ศึกษาก่อนแล้ว และจะขอให้ นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค.ช่วยประสานกับ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน และแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ รวมทั้งขอนโยบายในการบริหารงานต่อไป” นายบำเรอ กล่าว
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ (แฟ้มภาพ)
ผอ.องค์การค้า กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2552 องค์การค้าฯ วางแผนจะขยายร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ให้เกิดขึ้นใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ โดยยกระดับร้านค้าซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายขององค์การค้าฯ ให้เป็นร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ โดยจะนำโลโก้ของร้านศึกษาภัณฑ์ฯ ไปติด หลังจากนี้ จากเดิมที่ร้านค้าตัวแทนจะสั่งซื้อหนังสือเรียนเพียงอย่างเดียว ก็จะสั่งสินค้าอื่นที่มีจำหน่ายในร้านศึกษาภัณฑ์ไปวางจำหน่ายที่ร้านตัวแทนด้วย ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างน้อยเขตพื้นที่การศึกษาละ 1 แห่ง ซึ่งจะช่วยทำให้ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูก และมีคุณภาพ ขณะเดียวกัน ยังทำให้องค์การค้าฯ มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่ม และมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น