ปลัด ศธ.เผยผลการดำเนินงานองค์การค้า ทำกำไร 500 ล้าน ส่วน 3 พฤศจิกายนนี้หารือเพื่อเร่งหาจุดยืนองค์การค้าจะเน้นสนับสนุนด้านการศึกษา หรือแสวงหากำไร พร้อมหาทางสางปัญหาหนี้สิน
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า มีการรายงานผลการดำเนินการประจำปีขององค์การค้า สกสค.ใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา (ตุลาคม 2550-มิถุนายน 2551) ภาพรวมมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สูงมาก สำหรับไตรมาสนี้องค์การค้าฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น 3,092.88 ล้านบาท เมื่อเทียบปีงบประมาณ 2550 ที่ได้ 2,509 ล้านบาท จึงมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 500 ล้านบาท
นายชินภัทร กล่าวว่า องค์การค้า สกสค.พยายามตัดรายจ่ายในส่วนของการดำเนินงานให้น้อยลง ปีนี้มีรายจ่ายลดลง 107 ล้านบาท พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการยังอภิปรายถึงแนวทางแก้ปัญหาขององค์การค้าฯ ว่า ให้เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาระยะสั้นและระยะยาว โดยกำหนดหารือร่วมกันในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ และวันดังกล่าวจะหาทางแก้ปัญหาให้ครอบคลุมในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1.วิเคราะห์ภารกิจขององค์การค้า สกสค.ว่าจะเน้นทางด้านใด กำหนดภารกิจให้ชัดเจน เช่น จะให้องค์การค้าฯ เป็นองค์กรของรัฐเพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการศึกษา หรือจะเป็นองค์กรที่แสวงหากำไร
2.วิเคราะห์ประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และให้องค์การค้าฯสรุปภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งกำไร และขาดทุน รวมถึงวิเคราะห์ปัจจัยภายใน ภายนอก องค์การค้าขาดทุนเพราะอะไร และกำลังพลขององค์การค้าฯเหมาะสมหรือไม่ และ 3.หาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ค้าง เช่นเรื่องปัญหาหนี้สิน รวมถึงคดีความต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง
ส่วนกรณีที่สหภาพองค์การค้าเรียกร้องให้ขึ้นเงินเดือนให้เจ้าหน้าที่องค์การค้า 3% และอีก 2 ขั้น ล้อตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ 3% และ 2 ขั้นตั้งแต่ปี 2547 นายชินภัทร กล่าวว่า ต้องใช้เงินกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งนายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศธ.ได้ให้แนวทางไปเรียบร้อยและรับปากจะดูแลเรื่องนี้ จึงสั่งให้ สกสค.ทำรายงานสรุปและนำเสนอต่อที่ประชุม ซึ่งมีหลายคนถามว่าจะมีการอุทธรณ์คำสั่งศาลหรือไม่นั้น ตรงนี้เป็นเรื่องทางเทคนิค เมื่อศาลมีคำสั่งออกมาเราก็ต้องอุทธรณ์ตามคำสั่งศาล ต้องดำเนินการควบคู่กันไปกับการหาแหล่งเงินเพื่อนำมาชดเชยด้วย อาจจะต้องเสนอของบจากคณะรัฐมนตรี ครม.
