บอร์ด สกสค.ตั้ง “จิตรนรา” ทำแผนฟื้นฟูองค์การค้า ด้าน “บำเรอ” เสนอปลด พนักงาน 370 คนภายใน 3 ปี หวังลดรายจ่าย
วานนี้(3 พ.ย.) นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สกสค.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาขององค์การค้าของ สกสค.มี 3 แนวทาง คือ 1.วิเคราะห์ภารกิจขององค์การค้าให้ชัดเจนว่าในอนาคตควรจะมีภารกิจอย่างไร ซึ่งขณะนี้องค์การค้ามีภารกิจจัดทำหนังสือแบบเรียนต่างๆ และดำเนินการทางธุรกิจที่หวังผลกำไร 2.วิเคราะห์การดำเนินการตั้งแต่ปี 2544 ถึงปัจจุบันโดยวิเคราะห์สาเหตุของการขาดทุนจำนวน 2,291 ล้านบาท ว่า เกิดจากสาเหตุใด ซึ่งเบื้องต้น พบว่า ปัญหาที่ส่งผลให้องค์การค้าขาดทุนมี 3 ส่วน คือ ผลกระทบจากการค้าสื่อเสรี การตั้งงบประมาณเงินบำเหน็จให้กับพนักงานเมื่อปี 2544 จำนวน 500 ล้านบาท และผลกระทบจากสินค้าด้อยคุณภาพ
แนวทางที่ 3.คือ การทำแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ โดยตั้งคณะกรรมการจัดแผนวิเคราะห์และฟื้นฟูองค์การค้าฯขึ้นมา 1 ชุด โดยมี นายจิตรนรา นวรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายของ สกสค.เป็นประธานในการจัดทำแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลการดำเนินการขององค์การค้าย้อนหลัง 5-10 ปีที่ทำให้องค์การค้าขาดทุนมีอะไรบ้าง รวมถึงกำหนดว่าธุรกิจหลักที่องค์การค้าต้องดำเนินการ
นายชินภัทร กล่าวว่า องค์การค้ามีหน้าที่พิมพ์แบบเรียนเป็นหลัก ส่วนกิจการอื่นๆ จะต้องมีการทบทวน ต่อไปจะให้องค์การค้าส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของรัฐบาล ร้อยละ 70 ให้จัดพิมพ์แบบเรียนการศึกษาภาคบังคับขั้นพื้นฐาน 9 ปี ซึ่งควบคุมราคาแบบเรียนได้ ส่วนอีกร้อยละ 30 ให้องค์การค้าดำเนินธุรกิจเพื่อแข่งขันกับภาคเอกชน ทั้งนี้ จะให้คณะกรรมการฯ จัดทำแผนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน แล้วนำมาเสนอในที่ประชุมบอร์ด ส.ก.ส.ค.พิจารณา
ด้าน นายบำเรอ ภาณุวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.กล่าวว่า ตนได้เสนอแผนปรับลดบุคลากรขององค์การค้าฯจำนวน 370 คน ภายใน 3 ปี ระหว่างปี 2553-2555 เพื่อลดรายจ่ายขององค์การค้า ขณะนี้องค์การค้ามีพนักงานทั้งหมด 1,975 คน ลดให้เหลือ 1,605 คน ซึ่งต้องใช้เงิน751 ล้านบาทมาจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงาน และที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอนี้ จึงมอบให้คณะกรรมการวิเคราะห์และฟื้นฟูฯ นำไปจัดทำแผนฟื้นฟู
วานนี้(3 พ.ย.) นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สกสค.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาขององค์การค้าของ สกสค.มี 3 แนวทาง คือ 1.วิเคราะห์ภารกิจขององค์การค้าให้ชัดเจนว่าในอนาคตควรจะมีภารกิจอย่างไร ซึ่งขณะนี้องค์การค้ามีภารกิจจัดทำหนังสือแบบเรียนต่างๆ และดำเนินการทางธุรกิจที่หวังผลกำไร 2.วิเคราะห์การดำเนินการตั้งแต่ปี 2544 ถึงปัจจุบันโดยวิเคราะห์สาเหตุของการขาดทุนจำนวน 2,291 ล้านบาท ว่า เกิดจากสาเหตุใด ซึ่งเบื้องต้น พบว่า ปัญหาที่ส่งผลให้องค์การค้าขาดทุนมี 3 ส่วน คือ ผลกระทบจากการค้าสื่อเสรี การตั้งงบประมาณเงินบำเหน็จให้กับพนักงานเมื่อปี 2544 จำนวน 500 ล้านบาท และผลกระทบจากสินค้าด้อยคุณภาพ
แนวทางที่ 3.คือ การทำแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ โดยตั้งคณะกรรมการจัดแผนวิเคราะห์และฟื้นฟูองค์การค้าฯขึ้นมา 1 ชุด โดยมี นายจิตรนรา นวรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายของ สกสค.เป็นประธานในการจัดทำแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลการดำเนินการขององค์การค้าย้อนหลัง 5-10 ปีที่ทำให้องค์การค้าขาดทุนมีอะไรบ้าง รวมถึงกำหนดว่าธุรกิจหลักที่องค์การค้าต้องดำเนินการ
นายชินภัทร กล่าวว่า องค์การค้ามีหน้าที่พิมพ์แบบเรียนเป็นหลัก ส่วนกิจการอื่นๆ จะต้องมีการทบทวน ต่อไปจะให้องค์การค้าส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของรัฐบาล ร้อยละ 70 ให้จัดพิมพ์แบบเรียนการศึกษาภาคบังคับขั้นพื้นฐาน 9 ปี ซึ่งควบคุมราคาแบบเรียนได้ ส่วนอีกร้อยละ 30 ให้องค์การค้าดำเนินธุรกิจเพื่อแข่งขันกับภาคเอกชน ทั้งนี้ จะให้คณะกรรมการฯ จัดทำแผนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน แล้วนำมาเสนอในที่ประชุมบอร์ด ส.ก.ส.ค.พิจารณา
ด้าน นายบำเรอ ภาณุวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.กล่าวว่า ตนได้เสนอแผนปรับลดบุคลากรขององค์การค้าฯจำนวน 370 คน ภายใน 3 ปี ระหว่างปี 2553-2555 เพื่อลดรายจ่ายขององค์การค้า ขณะนี้องค์การค้ามีพนักงานทั้งหมด 1,975 คน ลดให้เหลือ 1,605 คน ซึ่งต้องใช้เงิน751 ล้านบาทมาจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงาน และที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอนี้ จึงมอบให้คณะกรรมการวิเคราะห์และฟื้นฟูฯ นำไปจัดทำแผนฟื้นฟู