“สมเกียรติ” ส่งหนังสือถึง รมว.ศธ.แจงสี่เบี้ย ผู้บริหาร สกสค.ยักยอกทรัพย์ 30 ล้าน ด้าน “อู๊ดด้า” ยังไม่รู้เรื่อง รับปากจะตรวจสอบและทำแบบโปร่งใส
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนมีหนังสือถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากกรรมการสหภาพแรงงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภาว่า ได้มีผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อย 3 คน ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายสหกรณ์ ตามที่ร้องทุกข์กล่าวโทษสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย กทม.(ลงวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา) ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของรัฐ เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัยว่า สกสค.มีสภานภาพเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ในกำกับของ ศธ.
ทั้งนี้ องค์การค้าฯ หักเงินค่างวดและค่าชำระหนี้ของสมาชิก สอ.อค.แล้วไม่นำส่งให้ สอ.อค.ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2551 รวม 3 เดือน เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท คณะกรรมการดำเนินการ สอ.อค.มีมติในคราวประชุมครั้งที่ พิเศษ/2551-52 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2552 ให้ สอ.อค.แจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ หากในวันที่ 15 มกราคม ยังไม่นำเงินมาชำระให้ สอ.อค.
ฉะนั้น สมาชิก สอ.อค.ในฐานะเจ้าขององค์กรจะต้องให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการดำเนินการฯในมาตรการแก้ไขปัญหาแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.สอ.อค.จะงดส่งใบเสร็จรับเงินชำระค่างวดและชำระหนี้ของสมาชิกให้องค์การค้าฯ หักเงิน 2.สมาชิกช่วยกรอกแบบฟอร์มยินยอมให้หักเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือนำเงินมาชำระเองที่ สอ.อค.แต่ขอความร่วมมือนำมาชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของสมาชิกเอง 3.พิจารณากู้ยืมเงินภายนอกมาเพื่อรองรับปัญหาการกู้ยืมเงินของสมาชิกตกค้าง
ด้าน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะเร่งติดตามให้เร็วที่สุด ว่าปัญหาเกิดจากจุดไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร จะตรวจสอบให้เร็วที่สุดพร้อมทั้งขบวนการตรวจสอบจะดำเนินการอย่างโปร่งใส
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนมีหนังสือถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากกรรมการสหภาพแรงงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภาว่า ได้มีผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อย 3 คน ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายสหกรณ์ ตามที่ร้องทุกข์กล่าวโทษสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย กทม.(ลงวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา) ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของรัฐ เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัยว่า สกสค.มีสภานภาพเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ในกำกับของ ศธ.
ทั้งนี้ องค์การค้าฯ หักเงินค่างวดและค่าชำระหนี้ของสมาชิก สอ.อค.แล้วไม่นำส่งให้ สอ.อค.ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2551 รวม 3 เดือน เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท คณะกรรมการดำเนินการ สอ.อค.มีมติในคราวประชุมครั้งที่ พิเศษ/2551-52 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2552 ให้ สอ.อค.แจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ หากในวันที่ 15 มกราคม ยังไม่นำเงินมาชำระให้ สอ.อค.
ฉะนั้น สมาชิก สอ.อค.ในฐานะเจ้าขององค์กรจะต้องให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการดำเนินการฯในมาตรการแก้ไขปัญหาแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.สอ.อค.จะงดส่งใบเสร็จรับเงินชำระค่างวดและชำระหนี้ของสมาชิกให้องค์การค้าฯ หักเงิน 2.สมาชิกช่วยกรอกแบบฟอร์มยินยอมให้หักเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือนำเงินมาชำระเองที่ สอ.อค.แต่ขอความร่วมมือนำมาชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของสมาชิกเอง 3.พิจารณากู้ยืมเงินภายนอกมาเพื่อรองรับปัญหาการกู้ยืมเงินของสมาชิกตกค้าง
ด้าน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะเร่งติดตามให้เร็วที่สุด ว่าปัญหาเกิดจากจุดไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร จะตรวจสอบให้เร็วที่สุดพร้อมทั้งขบวนการตรวจสอบจะดำเนินการอย่างโปร่งใส
