ลุ้นนับคะแนนเลือกตั้งคณะกรรมการแพทยสภา เที่ยงพรุ่งนี้ รู้ผล คาดเลือกตั้งเน้นบุคคลมากกว่าเลือกเป็นทีม “หมอสมศักดิ์” แชมป์เก่าโวได้อีกสมัยพัฒนาคุณภาพชีวิตแพทย์ สวัสดิการ รายได้ หยุดสมองไหลไปภาคเอกชน ขณะที่ “หมอวิชัย” ฝันรื้อระบบเปลี่ยนภาพลักษณ์แพทยสภาจากสหภาพแพทย์ เป็นแพทยสภา เพื่อประชาชน ฟันธงหมอกลุ่มเดิมยกก๊วนได้อีกสมัย
นพ.พรณรงค์ โชติสุวรรณ ประธานคณะอนุกรรมการการเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาวาระ พ.ศ.2552-2554 กล่าวว่า ในวันที่ 21 มกราคม เวลา 09.00 น.จะมีการนับคะแนนการเลือกตั้งเลือกตั้งคณะกรรมการแพทยสภา วาระ พ.ศ.2552-2554 ด้วยเครื่องนับคะแนน คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเวลา 12.00 น.โดยมีนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชนรวมสังเกตการณ์ สำหรับในครั้งนี้มีผู้สนใจลงสมัครจำนวน 54 คน แต่จะคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการแพทยสภาทั้งสิ้น 26 คน ด้วยวิธีการส่งบัตรลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาไปยังแพทย์ทั่วประเทศกว่า 3 หมื่นฉบับ โดยมีบัตรลงคะแนนที่ส่งกลับคืนมาประมาณกว่า 1 หมื่นฉบับ ทั้งทางไปรษณีย์และนำบัตรลงคะแนนดังกล่าวไปใส่หีบเลือกตั้ง
“ในปีนี้การแข่งขันหาเสียงไม่รุนแรง ค่อนข้างเงียบๆ มีทั้งการสมัครแบบเป็นทีมและเดี่ยว ซึ่งไม่ชัดเจน เช่น กลุ่มอาจารย์แพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ราชวิทยาลัย และแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชน 2-3 กลุ่ม ซึ่งคาดว่าการเลือกตั้งน่าจะเน้นที่ตัวบุคคลมากกว่าการเลือกเป็นกลุ่มหรือทีม ส่วนใครจะได้รับคัดเลือกเป็นตัวเต็งนั้นไม่สามารถคาดเดาได้” นพ.พรณรงค์ กล่าว
ด้าน ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา หนึ่งในผู้สมัครคณะกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า หากตนได้รับเลือกเป็นนายกแพทยสภาเป็นสมัยที่ 13 จะเน้นดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของแพทย์อย่างโปร่งใสและมีเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลเรื่องรายได้และสวัสดิการของแพทย์ที่อยู่ในระบบราชการ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แพทย์ไม่ต้องการรับราชการจนนำมาสู่การขาดแคลนแพทย์ นอกจากนี้ จะดูแลเรื่องคุณภาพการบริการและรักษาพยาบาล เน้นให้การช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติเป็นหลักและการทำงานเป็นทีม
“ความเป็นจริงประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนแพทย์ เพราะเมื่อสอบถามไปยังโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลทหาร โรงเรียนแพทย์ ปรากฏว่า ไม่ได้ขาดแคลนแพทย์ แต่ที่พูดกันว่าขาดแคลนแพทย์นั้น ขาดเฉพาะแพทย์ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผลจากการที่ระบบราชการไม่เหลียวแลแพทย์ ทำให้ไม่มีใครอยากอยู่ในระบบ จึงต้องทำให้แพทย์มีความสบายใจในการทำงาน จะส่งผลให้ประชาชนได้รับคุณภาพการรักษาที่ดีด้วย”ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ผู้สมัครคณะกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า ตนอยากให้แพทยสภาเป็นสภาวิชาชีพจริงๆ ที่ไม่ใช่เป็นเหมือนสหภาพของแพทย์ ที่ปัจจจุบันมีสถานะใกล้เคียงสหภาพมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสหภาพมุ่งประโยชน์เฉพาะสมาชิก ทั้งๆ ที่แพทยสภาควรยึดประโยชน์ของประชาชนสูงสุด โดยจะฟื้นฟูแพทยสภาให้มีศักดิ์และศรีเป็นที่ยอมรับของประชาชน
“ผลการเลือกตั้งครั้งนี้คงขึ้นอยู่กับสมาชิกแพทย์จะคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักหรือไม่ ทั้งนี้ การที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเพียงต้องการทราบแนวโน้มความคิดของแพทย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากได้เข้าไปเป็นคณะกรรมการแพทยสภาคงจะเป็นเสียงข้างน้อยแน่นอน แต่จะเป็นเสียงข้างน้อยที่มีคุณภาพ โดยจะทำหน้าที่คานอำนาจกับคณะกรรมการคนอื่นๆ โดยทำหน้าที่ตรวจสอบ หากเห็นในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส แต่หากไม่ได้รับเลือกก็ไม่เป็นไร เพราะยังสามารถทำงานได้เพียงแต่คนละสถานะเท่านั้น แต่คาดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคงจะเป็นกลุ่มเก่าๆ ได้รับคัดเลือกกลับเข้าไปใหม่ เพราะกระแสยังคงมาแรงมาก ตามกระแสทุนนิยมที่เป็นทั่วโลก เพียงแต่จะเปิดพื้นที่ให้กับผู้สมัครรายอื่นเข้าไปทำงานด้วยหรือไม่”นพ.วิชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบันที่มี นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา เป็นนายกแพทยสภา ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ทุกคน ยกเว้น พญ.สุธัญญา บรรจงภาค เท่านั้น ส่วนผู้สมัครรายอื่นที่น่าสนใจ อาทิ นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อดีตอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นพ.สิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) รศ.นพ.วัชรพงศ์ พุทธิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยใบไม้ในตับ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
นพ.พรณรงค์ โชติสุวรรณ ประธานคณะอนุกรรมการการเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาวาระ พ.ศ.2552-2554 กล่าวว่า ในวันที่ 21 มกราคม เวลา 09.00 น.จะมีการนับคะแนนการเลือกตั้งเลือกตั้งคณะกรรมการแพทยสภา วาระ พ.ศ.2552-2554 ด้วยเครื่องนับคะแนน คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเวลา 12.00 น.โดยมีนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชนรวมสังเกตการณ์ สำหรับในครั้งนี้มีผู้สนใจลงสมัครจำนวน 54 คน แต่จะคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการแพทยสภาทั้งสิ้น 26 คน ด้วยวิธีการส่งบัตรลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาไปยังแพทย์ทั่วประเทศกว่า 3 หมื่นฉบับ โดยมีบัตรลงคะแนนที่ส่งกลับคืนมาประมาณกว่า 1 หมื่นฉบับ ทั้งทางไปรษณีย์และนำบัตรลงคะแนนดังกล่าวไปใส่หีบเลือกตั้ง
“ในปีนี้การแข่งขันหาเสียงไม่รุนแรง ค่อนข้างเงียบๆ มีทั้งการสมัครแบบเป็นทีมและเดี่ยว ซึ่งไม่ชัดเจน เช่น กลุ่มอาจารย์แพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ราชวิทยาลัย และแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชน 2-3 กลุ่ม ซึ่งคาดว่าการเลือกตั้งน่าจะเน้นที่ตัวบุคคลมากกว่าการเลือกเป็นกลุ่มหรือทีม ส่วนใครจะได้รับคัดเลือกเป็นตัวเต็งนั้นไม่สามารถคาดเดาได้” นพ.พรณรงค์ กล่าว
ด้าน ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา หนึ่งในผู้สมัครคณะกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า หากตนได้รับเลือกเป็นนายกแพทยสภาเป็นสมัยที่ 13 จะเน้นดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของแพทย์อย่างโปร่งใสและมีเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลเรื่องรายได้และสวัสดิการของแพทย์ที่อยู่ในระบบราชการ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แพทย์ไม่ต้องการรับราชการจนนำมาสู่การขาดแคลนแพทย์ นอกจากนี้ จะดูแลเรื่องคุณภาพการบริการและรักษาพยาบาล เน้นให้การช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติเป็นหลักและการทำงานเป็นทีม
“ความเป็นจริงประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนแพทย์ เพราะเมื่อสอบถามไปยังโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลทหาร โรงเรียนแพทย์ ปรากฏว่า ไม่ได้ขาดแคลนแพทย์ แต่ที่พูดกันว่าขาดแคลนแพทย์นั้น ขาดเฉพาะแพทย์ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผลจากการที่ระบบราชการไม่เหลียวแลแพทย์ ทำให้ไม่มีใครอยากอยู่ในระบบ จึงต้องทำให้แพทย์มีความสบายใจในการทำงาน จะส่งผลให้ประชาชนได้รับคุณภาพการรักษาที่ดีด้วย”ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ผู้สมัครคณะกรรมการแพทยสภา กล่าวว่า ตนอยากให้แพทยสภาเป็นสภาวิชาชีพจริงๆ ที่ไม่ใช่เป็นเหมือนสหภาพของแพทย์ ที่ปัจจจุบันมีสถานะใกล้เคียงสหภาพมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสหภาพมุ่งประโยชน์เฉพาะสมาชิก ทั้งๆ ที่แพทยสภาควรยึดประโยชน์ของประชาชนสูงสุด โดยจะฟื้นฟูแพทยสภาให้มีศักดิ์และศรีเป็นที่ยอมรับของประชาชน
“ผลการเลือกตั้งครั้งนี้คงขึ้นอยู่กับสมาชิกแพทย์จะคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักหรือไม่ ทั้งนี้ การที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเพียงต้องการทราบแนวโน้มความคิดของแพทย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากได้เข้าไปเป็นคณะกรรมการแพทยสภาคงจะเป็นเสียงข้างน้อยแน่นอน แต่จะเป็นเสียงข้างน้อยที่มีคุณภาพ โดยจะทำหน้าที่คานอำนาจกับคณะกรรมการคนอื่นๆ โดยทำหน้าที่ตรวจสอบ หากเห็นในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส แต่หากไม่ได้รับเลือกก็ไม่เป็นไร เพราะยังสามารถทำงานได้เพียงแต่คนละสถานะเท่านั้น แต่คาดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคงจะเป็นกลุ่มเก่าๆ ได้รับคัดเลือกกลับเข้าไปใหม่ เพราะกระแสยังคงมาแรงมาก ตามกระแสทุนนิยมที่เป็นทั่วโลก เพียงแต่จะเปิดพื้นที่ให้กับผู้สมัครรายอื่นเข้าไปทำงานด้วยหรือไม่”นพ.วิชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบันที่มี นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา เป็นนายกแพทยสภา ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ทุกคน ยกเว้น พญ.สุธัญญา บรรจงภาค เท่านั้น ส่วนผู้สมัครรายอื่นที่น่าสนใจ อาทิ นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อดีตอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นพ.สิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) รศ.นพ.วัชรพงศ์ พุทธิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยใบไม้ในตับ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
