ศธ.พิจารณาปรับลดเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะข้าราชการครู โดยลดภาระการทำผลงานทางวิชาการลง “ชินภัทร” เผย เร่งพัฒนาหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะใหม่ ไม่ให้ครูเสียสิทธิ แต่ต้องถ่วงดุลไม่ให้ช่วยเหลือกันด้วย โดยต้องส่งเกณฑ์ให้ ก.ค.ศ.พิจารณาในเดือนตุลาคมนี้
ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายปรับเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะ โดยลดภาระการทำผลงานทางวิชาการของครูลง ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาพัฒนาหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่ หรือ ว.2 ซึ่งก่อนนี้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้ขอให้เลื่อนการใช้ออกไปก่อนแต่ไม่ได้ล้มเลิกการประกาศใช้ เพราะการจะประกาศใช้เกณฑ์นี้ ต้องให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีความมั่นใจ หากนำไปใช้แล้วจะทำให้ครูเสียสิทธิ และความไม่พร้อมของระบบจะทำให้เกิดความล่าช้าในการประเมินวิทยฐานะ ซึ่งความไม่พร้อมของเกณฑ์นี้อยู่ที่มาตรฐานตำแหน่งซึ่งจะต้องกำหนดออกมาให้ชัดเจนว่าครูจะต้องมีคุณสมบัติและประสบการณ์อะไรประกอบในการรับการประเมิน เพราะหากมาตรฐานไม่ชัดเจนแล้วก็ไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้
“เกณฑ์ประเมิน ว.2 จะนำเกณฑ์ที่ได้ปรับปรุงใน ว.25 ซึ่งเป็นเกณฑ์ปัจจุบันที่ใช้อยู่มาประกอบด้วย เช่น การปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการอ่านผลงานโดยจะมี 3 คน แบ่งเป็นกรรมการในเขตพื้นที่การศึกษา 1 คน นอกเขตพื้นที่การศึกษา 1 คนและนอกสังกัดโรงเรียนของครู 1 คน เพื่อแก้ไขปัญหา หลังมีครูร้องเรียนว่ากรรมการอ่านผลงานไม่เข้าใจบริบทของการปฏิบัติงานของครู ดังนั้น จึงใช้หลักให้กรรมการอ่านผลงานเข้าใจงานครู และต้องมีความเป็นกลางด้วย ซึ่งจะช่วยถ่วงดุลไม่ให้มีการช่วยเหลือให้ครูผ่านการประเมิน”ปลัด ศธ.กล่าว
ดร.ชินภัทร กล่าวต่อไปว่า เกณฑ์ ว.2 นั้น เน้นการประเมินวิทยฐานะจากผลการจัดการเรียนการสอนของครูโดยจะไปลดการทำผลงานวิชาการของครูอยู่แล้ว ซึ่งในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ ว.2 จะนำข้อดีของ ว.25 มาใช้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องกัน โดยตั้งเป้าไว้ว่าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะต้องส่งหลักเกณฑ์ ว.2 ให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในช่วงเดือน ต.ค.นี้ ส่วนการจัดตั้งสถาบันกำหนดมาตรฐานการพัฒนาและผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น จะต้องดูในรายละเอียดก่อน ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์จะประชุมหาข้อเสนอแนะ และในเดือนมีนาคมจะเสนอแนวทางการพัฒนาครูทั้งระบบ
ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายปรับเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะ โดยลดภาระการทำผลงานทางวิชาการของครูลง ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาพัฒนาหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ใหม่ หรือ ว.2 ซึ่งก่อนนี้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้ขอให้เลื่อนการใช้ออกไปก่อนแต่ไม่ได้ล้มเลิกการประกาศใช้ เพราะการจะประกาศใช้เกณฑ์นี้ ต้องให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีความมั่นใจ หากนำไปใช้แล้วจะทำให้ครูเสียสิทธิ และความไม่พร้อมของระบบจะทำให้เกิดความล่าช้าในการประเมินวิทยฐานะ ซึ่งความไม่พร้อมของเกณฑ์นี้อยู่ที่มาตรฐานตำแหน่งซึ่งจะต้องกำหนดออกมาให้ชัดเจนว่าครูจะต้องมีคุณสมบัติและประสบการณ์อะไรประกอบในการรับการประเมิน เพราะหากมาตรฐานไม่ชัดเจนแล้วก็ไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้
“เกณฑ์ประเมิน ว.2 จะนำเกณฑ์ที่ได้ปรับปรุงใน ว.25 ซึ่งเป็นเกณฑ์ปัจจุบันที่ใช้อยู่มาประกอบด้วย เช่น การปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการอ่านผลงานโดยจะมี 3 คน แบ่งเป็นกรรมการในเขตพื้นที่การศึกษา 1 คน นอกเขตพื้นที่การศึกษา 1 คนและนอกสังกัดโรงเรียนของครู 1 คน เพื่อแก้ไขปัญหา หลังมีครูร้องเรียนว่ากรรมการอ่านผลงานไม่เข้าใจบริบทของการปฏิบัติงานของครู ดังนั้น จึงใช้หลักให้กรรมการอ่านผลงานเข้าใจงานครู และต้องมีความเป็นกลางด้วย ซึ่งจะช่วยถ่วงดุลไม่ให้มีการช่วยเหลือให้ครูผ่านการประเมิน”ปลัด ศธ.กล่าว
ดร.ชินภัทร กล่าวต่อไปว่า เกณฑ์ ว.2 นั้น เน้นการประเมินวิทยฐานะจากผลการจัดการเรียนการสอนของครูโดยจะไปลดการทำผลงานวิชาการของครูอยู่แล้ว ซึ่งในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ ว.2 จะนำข้อดีของ ว.25 มาใช้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องกัน โดยตั้งเป้าไว้ว่าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะต้องส่งหลักเกณฑ์ ว.2 ให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในช่วงเดือน ต.ค.นี้ ส่วนการจัดตั้งสถาบันกำหนดมาตรฐานการพัฒนาและผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น จะต้องดูในรายละเอียดก่อน ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์จะประชุมหาข้อเสนอแนะ และในเดือนมีนาคมจะเสนอแนวทางการพัฒนาครูทั้งระบบ
