“จุรินทร์” เผยที่ประชุม ก.ค.ศ.เห็นชอบเกณฑ์วิทยฐานะใหม่ ให้มีผล 1 ต.ค.นี้ โดยประเมิน 3 ด้าน ทั้งความดี ความเก่ง ผลสัมฤทธิ์ พร้อมระบุผู้ยื่นเปลี่ยนสายงานใหม่ ไม่ถูกยกเลิกประเมิน สำหรับกรณีผู้ผ่านประเมินหลักเกณฑ์ใหม่แต่เงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของแท่งเงินเดือนวิทยฐานะใหม่ ยังไม่ได้รับวิทยฐานะจนกว่าเงินเดือนจะถึงขั้นต่ำ 1 ขั้น ส่วนผู้ยื่นประเมินเดิมและอยู่ระหว่างประเมินให้ใช้หลักเกณฑ์เดิมประเมินต่อไป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วนี้ๆ ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จำนวน 49 ตำแหน่ง ที่ผ่านการสรรหาคัดเลือกจำนวน 22 ตำแหน่ง และการแต่งตั้งโยกย้ายอีก 25 ตำแหน่งตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอ นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ค.ศ.ยังเห็นชอบให้มีการจัดสอบขึ้นบัญชี ผอ.สพท.เพื่อแต่งตั้งแทนตำแหน่งผอ.สพท.ที่เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ 2552 จำนวน 10 ตำแหน่งโดยจะขึ้นบัญชีไว้ 60 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งการจัดสอบขึ้นบัญชีนี้ใหม่นี้จะมีผลให้การสอบขึ้นบัญชีผอ.สพท.ใน 22 ตำแหน่งเดิมต้องยกเลิกไป
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักเกณฑ์ใหม่ในการยื่นขอวิทยฐานะโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.52 เป็นต้นไป โดยหลักเกณฑ์ใหม่นี้จะประเมินจาก 3 ด้าน คือ 1.ด้านความดี คือคุณธรรม จริยธรรม 100 คะแนน 2.ด้านความเก่ง คือ คุณภาพการปฏิบัติงาน สมรรถนะการทำงาน 100 คะแนน 3.ด้านความสามารถหลัก ประจำสายงาน ความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ และผลสำฤทธิ์อีก 100 คะแนน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผลสัมฤทธิ์จากผู้เรียน ผลจากการสอนของผู้ขอทำวิทยฐานะ 60 คะแนน และ เน้นผลงานวิชาการ การทำวิจัยในห้องเรียน อีก 40 คะแนน
สำหรับหลักเกณฑ์ใหม่ยังได้กำหนดเงื่อนไขด้วยว่าในกรณีที่ผู้ยื่นขอรับการประเมินวิทยฐานะเปลี่ยนสายงานใหม่หลังจากที่ได้ยื่นประเมินไปแล้วจะไม่ถูกยกเลิกการประเมินวิทยฐานะ ยังสามารถดำเนินการต่อได้ตามเดิม กรณีที่ผู้ที่ผ่านการประเมินวิทฐานะตามหลักเกณฑ์ใหม่แล้วแต่มีเงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของแท่งเงินเดือนวิทยฐานะที่ได้รับนั้น การได้รับวิทยฐานะดังกล่าวจะยังไม่มีผลจนกว่าจะมีเงินเดือนน้อยกว่าเงินเดือนขั้นต่ำของวิทยฐานะที่ได้รับ 1 ขั้น ส่วนกรณีผู้ที่ได้ยื่นขอประเมินในวิทยฐานะเดิมไว้ก่อนนี้และยังอยู่ระหว่างประเมินก็ให้ใช้หลักเกณฑ์เดิมต่อไป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วนี้ๆ ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จำนวน 49 ตำแหน่ง ที่ผ่านการสรรหาคัดเลือกจำนวน 22 ตำแหน่ง และการแต่งตั้งโยกย้ายอีก 25 ตำแหน่งตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอ นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ค.ศ.ยังเห็นชอบให้มีการจัดสอบขึ้นบัญชี ผอ.สพท.เพื่อแต่งตั้งแทนตำแหน่งผอ.สพท.ที่เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ 2552 จำนวน 10 ตำแหน่งโดยจะขึ้นบัญชีไว้ 60 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งการจัดสอบขึ้นบัญชีนี้ใหม่นี้จะมีผลให้การสอบขึ้นบัญชีผอ.สพท.ใน 22 ตำแหน่งเดิมต้องยกเลิกไป
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักเกณฑ์ใหม่ในการยื่นขอวิทยฐานะโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.52 เป็นต้นไป โดยหลักเกณฑ์ใหม่นี้จะประเมินจาก 3 ด้าน คือ 1.ด้านความดี คือคุณธรรม จริยธรรม 100 คะแนน 2.ด้านความเก่ง คือ คุณภาพการปฏิบัติงาน สมรรถนะการทำงาน 100 คะแนน 3.ด้านความสามารถหลัก ประจำสายงาน ความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ และผลสำฤทธิ์อีก 100 คะแนน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผลสัมฤทธิ์จากผู้เรียน ผลจากการสอนของผู้ขอทำวิทยฐานะ 60 คะแนน และ เน้นผลงานวิชาการ การทำวิจัยในห้องเรียน อีก 40 คะแนน
สำหรับหลักเกณฑ์ใหม่ยังได้กำหนดเงื่อนไขด้วยว่าในกรณีที่ผู้ยื่นขอรับการประเมินวิทยฐานะเปลี่ยนสายงานใหม่หลังจากที่ได้ยื่นประเมินไปแล้วจะไม่ถูกยกเลิกการประเมินวิทยฐานะ ยังสามารถดำเนินการต่อได้ตามเดิม กรณีที่ผู้ที่ผ่านการประเมินวิทฐานะตามหลักเกณฑ์ใหม่แล้วแต่มีเงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของแท่งเงินเดือนวิทยฐานะที่ได้รับนั้น การได้รับวิทยฐานะดังกล่าวจะยังไม่มีผลจนกว่าจะมีเงินเดือนน้อยกว่าเงินเดือนขั้นต่ำของวิทยฐานะที่ได้รับ 1 ขั้น ส่วนกรณีผู้ที่ได้ยื่นขอประเมินในวิทยฐานะเดิมไว้ก่อนนี้และยังอยู่ระหว่างประเมินก็ให้ใช้หลักเกณฑ์เดิมต่อไป