มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จี้ รมว.พม.ตรวจสอบเส้นทางปลากระป๋องเน่าแจกผู้ประสบภัย แนะผู้บริโภคในพื้นที่รวมตัวกันฟ้องร้องกระทรวง พม. ตามกฎหมายระเบียบวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค ที่ครอบคลุมแม้แต่ของแจกจ่ายที่ให้กับผู้ประสบภัย เพื่อมิให้เป็นแบบอย่าง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีปลากระป๋องเน่าเสียที่นำไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดพัทลุง ว่า ขณะนี้ได้ประสานให้เครือข่ายผู้บริโภคในพื้นที่เร่งเก็บข้อมูลและให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นได้ให้ความรู้ด้านกฎหมายกับผู้บริโภคที่เป็นประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถฟ้องร้องกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตามกฎหมายระเบียบวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค ที่ครอบคลุมแม้แต่ของแจกจ่ายที่ให้กับผู้ประสบภัย เพื่อเป็นแบบอย่างมิให้หน่วยงานภาครัฐนำของหมดอายุ หรือของเสียแจกกับประชาชนที่ประสบภัยอีก เพื่อเป็นบรรทัดฐานการช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยคนอื่นๆ
น.ส.สารี กล่าวว่า โดยปกติผู้บริโภคที่เป็นประชาชนที่ประสบภัยต่างๆ ได้รับของแจกแม้จะไม่มีคุณภาพ ก็ไม่เคยคิดอะไร เนื่องจากถือเป็นของได้รับบริจาค แต่ในความเป็นจริงของแจกที่ช่วยเหลือดังกล่าว บางครั้งก็เป็นของที่ภาครัฐต้องเสียงบประมาณค่าใช้จ่ายในการซื้อหา มาช่วยประชาชน แต่กลับไม่ได้คุณภาพ เท่ากับซ้ำเดิมเคราะห์กรรมที่ได้รับ สถานที่ประสบภัยหลายแห่งกลายเป็นสถานที่ทิ้งขยะของเหลือ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐควรมีจรรยาบรรณาในการให้ความช่วยเหลือ และนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการ พม. ควรดำเนินการตรวจสอบเส้นทางของการจัดซื้อปลากระป๋อง เพื่อเอาผิดทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้อง และเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งพิจารณาให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคสามารถรับเป็นเจ้าของคดีสามารถฟ้องร้องให้กับผู้บริโภคได้ เพื่อใช้ในการเป็นตัวแทนช่วยเหลือผู้บริโภค
นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า เรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องเป็นผู้ตรวจสอบรับผิดชอบดำเนินการ และและหากมีผู้ได้รับประทานปลากระป๋องดังกล่าวแล้วเจ็บป่วย ผู้บริโภคก็สามารถดำเนินการฟ้องร้องค่าเสียหายได้ สิ่งสำคัญในขณะนี้ต้องหาข้อเท็จจริงถึงที่มาและคนกลางที่เกี่ยวข้อง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีปลากระป๋องเน่าเสียที่นำไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดพัทลุง ว่า ขณะนี้ได้ประสานให้เครือข่ายผู้บริโภคในพื้นที่เร่งเก็บข้อมูลและให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นได้ให้ความรู้ด้านกฎหมายกับผู้บริโภคที่เป็นประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถฟ้องร้องกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตามกฎหมายระเบียบวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค ที่ครอบคลุมแม้แต่ของแจกจ่ายที่ให้กับผู้ประสบภัย เพื่อเป็นแบบอย่างมิให้หน่วยงานภาครัฐนำของหมดอายุ หรือของเสียแจกกับประชาชนที่ประสบภัยอีก เพื่อเป็นบรรทัดฐานการช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยคนอื่นๆ
น.ส.สารี กล่าวว่า โดยปกติผู้บริโภคที่เป็นประชาชนที่ประสบภัยต่างๆ ได้รับของแจกแม้จะไม่มีคุณภาพ ก็ไม่เคยคิดอะไร เนื่องจากถือเป็นของได้รับบริจาค แต่ในความเป็นจริงของแจกที่ช่วยเหลือดังกล่าว บางครั้งก็เป็นของที่ภาครัฐต้องเสียงบประมาณค่าใช้จ่ายในการซื้อหา มาช่วยประชาชน แต่กลับไม่ได้คุณภาพ เท่ากับซ้ำเดิมเคราะห์กรรมที่ได้รับ สถานที่ประสบภัยหลายแห่งกลายเป็นสถานที่ทิ้งขยะของเหลือ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐควรมีจรรยาบรรณาในการให้ความช่วยเหลือ และนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการ พม. ควรดำเนินการตรวจสอบเส้นทางของการจัดซื้อปลากระป๋อง เพื่อเอาผิดทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้อง และเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งพิจารณาให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคสามารถรับเป็นเจ้าของคดีสามารถฟ้องร้องให้กับผู้บริโภคได้ เพื่อใช้ในการเป็นตัวแทนช่วยเหลือผู้บริโภค
นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า เรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องเป็นผู้ตรวจสอบรับผิดชอบดำเนินการ และและหากมีผู้ได้รับประทานปลากระป๋องดังกล่าวแล้วเจ็บป่วย ผู้บริโภคก็สามารถดำเนินการฟ้องร้องค่าเสียหายได้ สิ่งสำคัญในขณะนี้ต้องหาข้อเท็จจริงถึงที่มาและคนกลางที่เกี่ยวข้อง
