“อิสสระ” สวนกลับ “พร้อมพงศ์” ไม่เคยแทรกแซงข้าราชการในการตรวจสอบปลากระป๋องเน่า ยันทุกวันนี้ยังไม่เคยพูดคุย สั่งการข้าราชการคนใดเป็นพิเศษ รู้จักอยู่คนเดียวคือเจ้าหน้าที่หน้าห้อง บ่นอุบอยู่ “หัวเดียวกระเทียมลีบ” แขวะจะให้ดีโฆษกเพื่อไทยต้องมาเป็นรัฐมนตรีเอง เผย หากมีหลักฐาน คนรับคำสั่งเอาออกมายืนยันอย่าเอาแต่พูดไปเรื่อยตามกระแสข่าว
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาถอดถอนตนออกจากตำแหน่งเหตุจากการไปแทรกแซงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปลากระป๋องเน่า ว่า เพิ่งทราบเรื่องนี้เช่นกันซึ่งตนเพิ่งเข้ามารับหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.พม.ได้ 10 วัน ก็ยังไม่ได้พูดคุยกับข้าราชการคนใดเป็นพิเศษ แม้แต่คนเดียว จะรู้จักจริงก็มีแค่เจ้าหน้าที่หน้าห้องเพียงเท่านั้น ไม่รู้ว่าจะไปสั่งใคร เพราะตอนนี้ตนทำหน้าที่อยู่ในกระทรวงอย่างหัวเดียวกระเทียมลีบ ตนจะไปสั่งใครได้ขนาดปลัด พม.เองยังจะเอาตัวไม่รอด ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ทางพรรคเพื่อไทยหาว่าตนเข้าไปแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบเรื่องปลากระป๋องเน่านั้นไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร
“ที่โฆษกแทนพรรคเพื่อไทย เอามาเป็นประเด็นให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะเข้าไปแทรกแซงการตรวจสอบปลากระป๋องเน่านั้น ก็เพราะอาจได้ยินข่าวมาว่าที่ผมเข้ามารับหน้าที่นี้เพราะจะช่วยคุณวิฑูรย์ เพราะผมเป็น ส.ส.จังหวัดเดียวกัน ทางตัวแทนพรรคเพื่อไทยก็เอามาพูด เอามาเป็นประเด็น หรือถ้าหากจะเปลี่ยนจากผมเป็นคนอื่นยังไงก็มาจากตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ดี ก็ถูกครหาว่าช่วยคนพรรคเดียวกันอีก ไม่มีวันสิ้นสุดหรือหากจะให้ดีคุณพร้อมพงศ์คงต้องมาเป็น รมว.พม.เองถึงจะดีที่สุดใช่หรือไม่”รมว.พม.กล่าว
เมื่อถามว่า ตัวแทนพรรคเพื่อไทย อ้างว่า เป็นข้าราชการที่เป็นคนแจ้งว่ามีการแทรกแซง นายอิสสระ กล่าวต่อว่า หากมีหลักฐานจริงก็ให้เอาออกมาเปิดเผย ว่าตนพูดสั่งการเรื่องนี้กับใคร ตอนไหน เพราะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงชุดที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องปลากระป๋องเน่าว่าเป็นใครตนก็ยังไม่เคยทราบ ยืนยันได้เลยว่าไม่ได้ไปก้าวก่าย แทรกแซงการทำงานของใครทั้งสิ้น และยังต้องการให้คณะกรรมการทุกชุดที่เข้ามาตรจสอบเรื่องนี้พิจารณาไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งในวันนี้ (23 ก.พ.) ก็เป็นวันแรกที่ตนจะได้พบข้าราชการทุกระดับเนื่องจากเป็นวันที่จะมอบนโยบายแก่ข้าราชการ ก็จะได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
“ถ้าผมเป็นคนสั่งแทรกแซงจริง ข้าราชการคนที่ผมสั่งจะปฏิบัติตามและรับคำสั่งหรือไม่ เพราะเป็นคำสั่งที่ผิด หากมีการตรวจสอบจริงข้าราชการคนนั้นก็จะต้องมีความผิด ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากปฏิบัติตาม หากคิดว่าผมพูดจริงก็ให้คนรับคำสั่งมายืนยันเลยดีกว่า” รมว.พม.กล่าว
