โรงเรียนเอกชนเตรียมขอทบทวนเงินช่วยเหลือครูโรงเรียนเอกชน 2 พันกว่าล้านบาท ต่อรัฐบาลใหม่ หลังขอไปในรัฐบาลก่อน พร้อมสั่ง สช.ทำแผนรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ คาดผู้ปกครองส่งบลูกเรียนเอกชนน้อยลง
ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2551 ว่า ที่ประชุม ได้ขอทบทวนการพิจารณาเงินช่วยเหลือครูโรงเรียนเอกชนเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จำนวน 2,240.6 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเสนอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี หลังจากที่เคยเสนอขอไปในรัฐบาลที่แล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่จึงต้องเสนอขอทบทวนไปอีกครั้ง
รวมทั้งที่ประชุมได้ขอขยายระยะเวลาในการดำเนินการตามมาตรา 159 ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ที่ให้โรงเรียนเอกชนยื่นการจัดทำตราสารต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โดยมีโรงเรียนเอกชนที่ยื่นคำขอขยายระยะเวลา ในการจัดทำตราสารมา จำนวน 101 โรง จำแนกเป็น ประเภทสามัญศึกษา จำนวน 98 โรง ในจำนวนนี้แบ่งเป็นกทม. 14 โรง ภูมิภาค 84 โรง ประเภทอาชีวศึกษา จำนวน 3 โรง แบ่งเป็น ภูมิภาค จำนวน 3 โรง
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ทบทวนร่างประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่องการกำหนดประเภทและลักษณะของโรง การจัดการเรีบยนการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า โรงเรียนนอกระบบจะประกอบด้วยโรงเรียนประเภทใด และมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนอย่างไร รวมทั้งหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบควรมีลักษณะอย่างไร ซึ่งได้ข้อสรุปว่าโรงเรียนเอกชนนอกระบบมีอยู่ 5 ประเภท
ได้แก่ 1.โรงเรียนสอนศาสนา คือ โรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อสอนศาสนา 2.ประเภทศิลปและกีฬา เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดนตรี ศิลปะและกีฬา 3.ประเภทวิชาชีพ 4.ประเภทกวดวิชา มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมความรู้รายวิชาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 5.สร้างเสริมทักษะชีวิต มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต เชาวน์ปัญญา และทักษะอื่นๆ
ส่วนการจัดการศึกษาเอกชนอีกแบบหนึ่งนั้น เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนนอกระบบมีรูปแบบหลากหลาย ทั้งการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ครูผู้สอน หรือใช้สื่อการเรียนการสอน หรือการบูรณาการทั้งครูและสื่อเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มเติมว่า รูปแบบการสอนของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ สามารถจะจัดร่วมกันระหว่างโรงเรียนกับโรงเรียนหรือโรงเรียนกับหน่วยงานอื่นทั้งในและนอกสถานศึกษาให้มีมาตรฐาน เพื่อให้มีรูปแบบที่กว้างขวางมากขึ้น
“ที่ประชุมได้กำหนดการจัดงานวันการศึกษาเอกชนระหว่างวันที่ 9-11 ก.พ.2552 ที่ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี เพื่อแสดงผลงานของการศึกษาโรงเรียนเอกชนให้กับผู้สนใจได้เข้าชม ส่วนภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ปกครอง และทำให้การส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนลดน้อยลง ที่ประชุมได้มอบให้ สช.ไปจัดทำแผนเพื่อรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากเรื่องดังกล่าว เพื่อเสนอ ครม.ชุดใหม่ต่อไป” ดร.ชินภัทรกล่าว
