สีลมคึก! ผู้สมัครผู้ว่าฯ แห่หาเสียง “แซม” ไม่มีประเด็นใหม่เน้นถ่ายรูป-แจกลายเซ็นต์

ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หาเสียงสีลมคึก “แซม” เรตติ้งกระฉูดแฟนคลับรุมถ่ายรูป-ขอลายเซ็น จนแม่ค้าบ่นขายของไม่ได้ ส่วน “ธรรณม์ชัย” นำขบวนเชิดสิงโตเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม มีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคักถึง 3 ราย ได้แก่ นายอิสระ อมรเวช หมายเลข 7 สังกัดอิสระ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย และนายธรรณม์ชัย รุ่งจิรโรจน์ หมายเลข 11 สังกัดอิสระ โดยนายธรรณม์ชัย เปิดตัวเป็นคนแรกด้วยขบวนเชิดสิงโต เรียกความสนใจได้จากประชาชนที่มาเดินซื้อสินค้าได้พอสมควร ซึ่งก็มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ที่จัดแสดงการเชิดสิงโตในการหาเสียง อาจเข้าข่ายการจัดมหรสพรื่นเริง ซึ่งเป็นการผิดกฎหมายเรื่องตั้ง ด้านนายอิสระ พร้อมทีมงานประมาณ 5 คน เดินแจกเอกสารแนะนำตัวพร้อมชูนโยบายหลักจัดพื้นที่ใหม่ให้กลุ่มที่ต้องการแสดงออกทางการเมืองได้ไฮปาร์ค รณรงค์ต่อต้านการใช้ถนนและที่สาธารณะเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง

ขณะที่บรรยากาศการหาเสียงของนายยุรนันท์ ก็เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็นเป็นจำนวนมาก จนมีแต่คนเดินตามดูนายยุรนันท์ ไม่มีใครสนใจซื้อขายสินค้า ทำให้แม่ค้าหลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้ขายของไม่ได้ โดยนายยุรนันท์ยังชูนโยบายเดิม คือ ให้ผู้ค้ารายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ โดย กทม.จะเป็นเจ้าภาพให้ เพื่อไม่ให้ผู้ค้าต้องไปกู้แหล่งเงินกู้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง


ด้านนายชัยณรงค์ เทียนมงคล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) กล่าวถึงกรณีนายธรรณม์ชัย รุ่งจิรโรจน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 นำขบวนเชิดสิงโต จำนวน 2 ตัว และมีการตีฆ้องร้องเป่าเสียงดังไปทั่วซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม ว่า โดยปกติการแห่กองยาว การเชิดสิงโตให้เป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่ผู้พบเห็นนั้น ผู้สมัครฯเข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 ข้อ 3 ห้ามทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ อย่างไรก็ตามขณะนี้ กกต.กทม. ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามา ที่ กกต.กทม. ซึ่งตนได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่แล้วแต่ยังไม่มีรายงานเข้ามา ทั้งนี้หากพบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะนำเข้าที่ประชุม กกต.กทม. ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างไร จึงจะระบุได้ว่ามีความผิดและบทลงโทษผู้สมัครรายดังกล่าวอย่างไร