บรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ซึ่งได้พักค้างคืนในพื้นที่เขตหนองจอกเมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมาช่วงเช้าวานนี้(12 ธ.ค.) ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสดหนองจอก จากนั้นเดินทางต่อไปที่ รพ.หนองจอก พร้อมกล่าวว่า การรักษาพยาบาลถือเป็นนโยบายหลักของตนเพราะคนจะมีรอยยิ้มได้ สุขภาพต้องแข็งแรง สำหรับ รพ.หนองจอกถือเป็นโรงพยาบาลต้นแบบให้กับโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ฯ , รพ.สิรินทร, รพ.ราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลลาดกระบัง เพื่อให้ประชาชนในทุกพื้นที่ กทม.ได้มีโอกาสรับบริการทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพ
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ตนมีแผนในการขยายเครือข่าย รพ.ชานเมืองให้ครอบคลุมความต้องการของประชาชน โดยจะเริ่มต้นที่ รพ.บางขุนเทียนที่ขณะนี้กำลังก่อสร้างอยู่โดยมุ่งเน้นให้เป็นศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และในพื้นที่ดอนเมือง สายไหม อย่างไรก็ตาม ในการขยายจำนวนเตียงของโรงพยาบาลและขยายเครือข่ายของโรงพยาบาลชานเมือง อาจมีปัญหาเรื่องบุคลากร ซึ่งตนมีแนวทางแก้ปัญหาโดยจะเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัด ทั้งแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เภสัชกร รวมถึงพัฒนาระบบสารสนเทศให้เชื่อมโยงกันทั้งเครือข่าย ( Hospital Information System – HIS)ทำให้สามารถปรึกษาไปยัง รพ.ที่เป็น Excellent Center ได้
ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯใหม่ ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเนยยี่ ก่อนลงพื้นที่หาเสียงย่านตลอดเก่าเยาวราช นายแก้วสรร กล่าวว่า ตนมีนโยบายฟื้นฟูพื้นที่ถนนทรงวาดซึ่งเป็นแหล่งคมนาคมทางน้ำที่สำคัญในอดีตให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยจะทำให้ถนนทรงวาดถึงถนนสี่พระยาซึ่งเป็นพื้นที่ริมน้ำให้เป็นถนนข้าวสาร 2 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยจะหารือกับคนในพื้นที่ว่าต้องการพัฒนารูปแบบใด สามารถทำที่พักอาศัยที่พักสำหรับชาวต่างชาติแบบแบ็คแพค หรือทำเป็นบูติคโฮเต็ลได้หรือไม่ หากทำได้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากกว่าถนนข้าวสารอย่างแน่นอน
ส่วนถนนเยาวราชนั้น จะหารือกับผู้ค้าว่าจะให้พื้นที่ 1 เลนถนนเป็นแผงการค้า แทนการตั้งขายของบนทางเท้า ส่วนที่จอดรถจะหาพื้นที่ริมทางเท้าให้ โดยจะทำเว้นช่วงกับแผงค้าของผู้ค้า
ส่วนที่ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม มีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่หาเสียงถึง 3 ราย ได้แก่ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย นายอิสระอมรเวช หมายเลข 7 สังกัดอิสระ และนายธรรณม์ชัย รุ่งจิรโรจน์ หมายเลข 11 สังกัดอิสระ โดยนายธรรณม์ชัย เปิดตัวคนแรกด้วยขบวนเชิดสิงโต ซึ่งหลายคนวิจารณ์ว่าการจัดแสดงการเชิดสิงโตอาจเข้าข่ายการจัดมหรสพรื่นเริง ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ด้านนายอิสระ พร้อมทีมงานประมาณ 5 คน เดินแจกเอกสารแนะนำตัวพร้อมชูนโยบายหลักจัดพื้นที่ใหม่ให้กลุ่มที่ต้องการแสดงออกทางการเมืองได้ไฮปาร์ค รณรงค์ต่อต้านการใช้ถนนและที่สาธารณะเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง
ขณะที่นายยุรนันท์ยังชูนโยบายเดิม คือ ให้ผู้ค้ารายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ โดย กทม.จะเป็นเจ้าภาพให้ เพื่อไม่ให้ผู้ค้าต้องไปกู้แหล่งเงินกู้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
ทั้งนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายยุรนันท์ ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ท่าเรือคลองแสนแสบ ประตูน้ำ และล่องเรือจากท่าเรือประตูน้ำไปยังท่าเรือโบ๊เบ๊ โดยแถลงนโยบายว่า ปัจจุบันคน กทม.ใช้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบจำนวนมาก ดังนั้น การบริการดังกล่าวต้องมีมาตรฐาน และความปลอดภัยสูง โดยตนจะประสานผู้ได้รับสัมปทานเดินเรือด่วนปรับปรุงเรือให้มีคุณภาพขึ้น และจัดทำตารางเดินเรือ เพื่อความสะดวกแก่ผู้สัญจร รวมถึงดูแลท่าเรือให้มีความมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น และมีนโยบายผลักดันการก่อสร้างอุโมงค์ใต้น้ำสำหรับบำบัดน้ำเสีย สร้างท่อระบายน้ำทิ้งบริเวณสองริมฝั่งคลอง เพื่อรองรับน้ำทิ้งจากบ้านเรือน และส่งต่อไปยังอุโมงค์บำบัดน้ำเสีย โดยให้คลองแสนแสบเป็นต้นแบบในการบำบัดน้ำเสีย ก่อนจะขยายสู่คลองอื่นๆ ทั่ว กทม.
ด้าน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เดินหาเสียงตลาดนัดย่าน อสมท โดยสวมชุดสูทผ้าไหมญี่ปุ่นของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ซึ่ง ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า การเดินหาเสียงตลาดนัดว่า ทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตแบบคนไทย ส่วนการเชิญบุคคลมาร่วมทีมงานผู้ว่าฯ กทม.นั้น จะเปิดตัวเดือนมกราคม เพราะขณะนี้ยังเร็วไป ต้องรอให้เกิดความแน่ชัดของคะแนนนิยมมากกว่านี้
ด้านนายชัยณรงค์ เทียนมงคล ผอ.เลือกตั้งประจำ กทม. กล่าวถึงกรณีนายธรรณม์ชัย นำขบวนเชิดสิงโตมาหาสียงว่า การแห่กลองยาว การเชิดสิงโตเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 ข้อ 3 ห้ามทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ ซึ่งตนได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่มีรายงานเข้ามา ทั้งนี้ หากพบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะนำเข้าที่ประชุม กกต.กทม. ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างไร
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ตนมีแผนในการขยายเครือข่าย รพ.ชานเมืองให้ครอบคลุมความต้องการของประชาชน โดยจะเริ่มต้นที่ รพ.บางขุนเทียนที่ขณะนี้กำลังก่อสร้างอยู่โดยมุ่งเน้นให้เป็นศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และในพื้นที่ดอนเมือง สายไหม อย่างไรก็ตาม ในการขยายจำนวนเตียงของโรงพยาบาลและขยายเครือข่ายของโรงพยาบาลชานเมือง อาจมีปัญหาเรื่องบุคลากร ซึ่งตนมีแนวทางแก้ปัญหาโดยจะเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัด ทั้งแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เภสัชกร รวมถึงพัฒนาระบบสารสนเทศให้เชื่อมโยงกันทั้งเครือข่าย ( Hospital Information System – HIS)ทำให้สามารถปรึกษาไปยัง รพ.ที่เป็น Excellent Center ได้
ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯใหม่ ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเนยยี่ ก่อนลงพื้นที่หาเสียงย่านตลอดเก่าเยาวราช นายแก้วสรร กล่าวว่า ตนมีนโยบายฟื้นฟูพื้นที่ถนนทรงวาดซึ่งเป็นแหล่งคมนาคมทางน้ำที่สำคัญในอดีตให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยจะทำให้ถนนทรงวาดถึงถนนสี่พระยาซึ่งเป็นพื้นที่ริมน้ำให้เป็นถนนข้าวสาร 2 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยจะหารือกับคนในพื้นที่ว่าต้องการพัฒนารูปแบบใด สามารถทำที่พักอาศัยที่พักสำหรับชาวต่างชาติแบบแบ็คแพค หรือทำเป็นบูติคโฮเต็ลได้หรือไม่ หากทำได้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากกว่าถนนข้าวสารอย่างแน่นอน
ส่วนถนนเยาวราชนั้น จะหารือกับผู้ค้าว่าจะให้พื้นที่ 1 เลนถนนเป็นแผงการค้า แทนการตั้งขายของบนทางเท้า ส่วนที่จอดรถจะหาพื้นที่ริมทางเท้าให้ โดยจะทำเว้นช่วงกับแผงค้าของผู้ค้า
ส่วนที่ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม มีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่หาเสียงถึง 3 ราย ได้แก่ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย นายอิสระอมรเวช หมายเลข 7 สังกัดอิสระ และนายธรรณม์ชัย รุ่งจิรโรจน์ หมายเลข 11 สังกัดอิสระ โดยนายธรรณม์ชัย เปิดตัวคนแรกด้วยขบวนเชิดสิงโต ซึ่งหลายคนวิจารณ์ว่าการจัดแสดงการเชิดสิงโตอาจเข้าข่ายการจัดมหรสพรื่นเริง ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ด้านนายอิสระ พร้อมทีมงานประมาณ 5 คน เดินแจกเอกสารแนะนำตัวพร้อมชูนโยบายหลักจัดพื้นที่ใหม่ให้กลุ่มที่ต้องการแสดงออกทางการเมืองได้ไฮปาร์ค รณรงค์ต่อต้านการใช้ถนนและที่สาธารณะเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง
ขณะที่นายยุรนันท์ยังชูนโยบายเดิม คือ ให้ผู้ค้ารายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ โดย กทม.จะเป็นเจ้าภาพให้ เพื่อไม่ให้ผู้ค้าต้องไปกู้แหล่งเงินกู้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
ทั้งนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายยุรนันท์ ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ท่าเรือคลองแสนแสบ ประตูน้ำ และล่องเรือจากท่าเรือประตูน้ำไปยังท่าเรือโบ๊เบ๊ โดยแถลงนโยบายว่า ปัจจุบันคน กทม.ใช้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบจำนวนมาก ดังนั้น การบริการดังกล่าวต้องมีมาตรฐาน และความปลอดภัยสูง โดยตนจะประสานผู้ได้รับสัมปทานเดินเรือด่วนปรับปรุงเรือให้มีคุณภาพขึ้น และจัดทำตารางเดินเรือ เพื่อความสะดวกแก่ผู้สัญจร รวมถึงดูแลท่าเรือให้มีความมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น และมีนโยบายผลักดันการก่อสร้างอุโมงค์ใต้น้ำสำหรับบำบัดน้ำเสีย สร้างท่อระบายน้ำทิ้งบริเวณสองริมฝั่งคลอง เพื่อรองรับน้ำทิ้งจากบ้านเรือน และส่งต่อไปยังอุโมงค์บำบัดน้ำเสีย โดยให้คลองแสนแสบเป็นต้นแบบในการบำบัดน้ำเสีย ก่อนจะขยายสู่คลองอื่นๆ ทั่ว กทม.
ด้าน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เดินหาเสียงตลาดนัดย่าน อสมท โดยสวมชุดสูทผ้าไหมญี่ปุ่นของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ซึ่ง ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า การเดินหาเสียงตลาดนัดว่า ทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตแบบคนไทย ส่วนการเชิญบุคคลมาร่วมทีมงานผู้ว่าฯ กทม.นั้น จะเปิดตัวเดือนมกราคม เพราะขณะนี้ยังเร็วไป ต้องรอให้เกิดความแน่ชัดของคะแนนนิยมมากกว่านี้
ด้านนายชัยณรงค์ เทียนมงคล ผอ.เลือกตั้งประจำ กทม. กล่าวถึงกรณีนายธรรณม์ชัย นำขบวนเชิดสิงโตมาหาสียงว่า การแห่กลองยาว การเชิดสิงโตเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 ข้อ 3 ห้ามทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ ซึ่งตนได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่มีรายงานเข้ามา ทั้งนี้ หากพบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะนำเข้าที่ประชุม กกต.กทม. ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างไร
