“บำเรอ” รับวิกฤตเศรษฐกิจพ่นพิษกระทบทุกภาคส่วน เร่งมอบนโยบายให้ฝ่ายขายนำสินค้าที่มีอยู่ในสต๊อกออกมาจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดการจำหน่าย โดยการลดราคาครั้งใหญ่
นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน โดยในส่วนขององค์การค้าของ สกสค.เอง พ่อแม่ผู้ปกครองมีการใช้จ่ายเงินลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงฤดูกาลขายขององค์การค้าฯยอดขายก็ยิ่งลดลงมาก ตนจึงมอบนโยบายให้ฝ่ายขายนำสินค้าที่มีอยู่ในสต๊อกออกมาจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดการจำหน่าย โดยการลดราคาครั้งใหญ่ เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา ให้ได้มีโอกาสซื้อหนังสือ ชุดนักเรียน นักศึกษา และอุปกรณ์การศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ในราคาที่ถูก ขณะเดียวกัน องค์การค้าฯ ก็จะได้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้ามาใช้จ่ายบริหารงานด้วย
“วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ยังไม่กระทบรุนแรงถึงขั้นที่องค์การค้าฯต้องปลดพนักงานเหมือนในหลายๆ องค์กร แต่ในแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ ได้มีการกำหนดไว้ว่าจะต้องมีการปรับลดพนักงานลงประมาณ 400 คน เนื่องจากมีคนมากกว่าภาระงาน ทำให้ทุกวันนี้องค์การค้าฯต้องประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินและการบริหารงาน
ดังนั้น หากแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สกสค.ก็จำเป็นที่จะต้องจัดโครงการเออร์ลีรีไทร์ และจากการฟังความเห็นพนักงานและเจ้าหน้าที่ก็มีเสียงตอบรับกลับมาในทิศทางที่ดี แต่คงต้องขึ้นอยู่กับผลตอบแทนว่าเป็นที่พึงพอใจหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะสามารถทำได้หรือไม่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่า บอร์ดจะเห็นด้วยหรือไม่ และเมื่อเห็นด้วยแล้วจะจัดหางบประมาณจากไหนมาดำเนินการ นอกจากการขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล” ผอ.องค์การค้าของ สกสค.กล่าว
นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน โดยในส่วนขององค์การค้าของ สกสค.เอง พ่อแม่ผู้ปกครองมีการใช้จ่ายเงินลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงฤดูกาลขายขององค์การค้าฯยอดขายก็ยิ่งลดลงมาก ตนจึงมอบนโยบายให้ฝ่ายขายนำสินค้าที่มีอยู่ในสต๊อกออกมาจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดการจำหน่าย โดยการลดราคาครั้งใหญ่ เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา ให้ได้มีโอกาสซื้อหนังสือ ชุดนักเรียน นักศึกษา และอุปกรณ์การศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ในราคาที่ถูก ขณะเดียวกัน องค์การค้าฯ ก็จะได้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้ามาใช้จ่ายบริหารงานด้วย
“วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ยังไม่กระทบรุนแรงถึงขั้นที่องค์การค้าฯต้องปลดพนักงานเหมือนในหลายๆ องค์กร แต่ในแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ ได้มีการกำหนดไว้ว่าจะต้องมีการปรับลดพนักงานลงประมาณ 400 คน เนื่องจากมีคนมากกว่าภาระงาน ทำให้ทุกวันนี้องค์การค้าฯต้องประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินและการบริหารงาน
ดังนั้น หากแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สกสค.ก็จำเป็นที่จะต้องจัดโครงการเออร์ลีรีไทร์ และจากการฟังความเห็นพนักงานและเจ้าหน้าที่ก็มีเสียงตอบรับกลับมาในทิศทางที่ดี แต่คงต้องขึ้นอยู่กับผลตอบแทนว่าเป็นที่พึงพอใจหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะสามารถทำได้หรือไม่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่า บอร์ดจะเห็นด้วยหรือไม่ และเมื่อเห็นด้วยแล้วจะจัดหางบประมาณจากไหนมาดำเนินการ นอกจากการขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล” ผอ.องค์การค้าของ สกสค.กล่าว