“แซม” หาเสียงครั้งแรกประเดิมเอาชัยที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่งคนกรุงเทพฯไปทำงาน ชูนโยบายสร้างรถเมล์ กทม.เพื่อชาว กทม.พร้อมเป็นนายหน้าติดต่อธนาคารออมสินขอเงินกู้ต่ำเพื่อคนกรุง แถมนำเงิน SML มาให้ทุกชุมชนเพื่อไม่ต้องร้องทุกข์ผ่าน ส.ก.-ส.ข.ขณะที่ “ลีน่า จัง” ชูนโยบายรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะจากบ้าน พร้อมเพิ่มเงินเดือนพนักงานเก็บขยะเท่าตัว เตรียมแฉสปาย่านดังขายบริการทางเพศแฝง
วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงเป็นครั้งแรกหลังจากลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมส่งคนกรุงเทพฯ ไปทำงานในตอนเช้า โดยมี นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.นางศุภมาศ อิสรภักดี อดีต ส.ส.กทม.ตลอดจนอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) ร่วมหาเสียง ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน โดยมีบางคนถึงขนาดนำกล้องถ่ายรูปมาบันทึกเป็นวิดีโอ ขณะที่ นายแซม ให้สัมภาษณ์ หรือแม้แต่ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยเช่นกัน รวมถึงยังได้มีแฟนคลับชาวแฟลตดินแดงเกือบ 10 คน คอยช่วยหาเสียงโดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด
นายยุรนันท์ กล่าวว่า ในการหาเสียงครั้งแรก ซึ่งตนได้ตัดสินใจมาลงพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น เพราะถือเป็นสะดือ หรือจุดศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ที่มีผู้คนหลากหลายอาชีพทุกเพศทุกวัยสัญจรไปมามากมาย ส่งผลให้การจราจรผลุกผล่าน มีปัญหาหลากหลาย แต่ตนก็มีทีมส.ก และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ซึ่งทำงานในพื้นที่ และรู้ปัญหาต่างๆ เป็นอย่างดีโดยตนจะนำปัญหาเหล่านั้นมาคัดกรองเป็นนโยบายเพื่อนำไปพัฒนา กทม.
ทั้งนี้ สำหรับนโยบายด้านการจราจรนั้น ตนจะปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนให้เป็นระบบอย่างแท้จริง คือ จะมีเพิ่มรถขนส่งมวลชนให้เพียงพอกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะจัดทำโครงการรถประจำทางสาธารณะของ กทม.ขึ้นโดยเฉพาะเพื่อให้คน กทม.ได้สัญจรไปมาฟรี นอกจากนี้ จะต้องให้ทุกคนได้ใช้ระบบรถไฟฟ้าอย่างทั่วถึง คือ ให้มีความสะดวกสบายสามารถรับส่งคนจากประตูบ้านไปยังสถานีรถไฟฟ้าแต่ละสถานีได้ เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งในต่างประเทศระบบเหล่านี้มีความรัดกุมและสะดวกสบายมาก
นายยุรนันท์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันยังมีนโยบายรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำในปี 2552 โดย กทม.จะประสานกับธนาคารออมสินเพื่อให้ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับคน กทม.ที่ต้องการกู้เงินเพื่อการลงทุนต่างๆ โดยจะทำหน้าที่ลงทะเบียนผู้ที่มีความประสงค์ขอกู้เงิน และนำส่งต่อธนาคารเพื่อคัดเลือกต่อไป นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีเงินกองทุนกว่าพันล้านบาท กทม.ก็จะทำหน้าที่ประสานให้แต่ละชุมชนทุก 50 เขตในกทม.ที่ต้องการเงินเพื่อนำไปพัฒนาหรือแก้ปัญหาภายในชุมชนด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องไปร้องทุกข์กับบรรดา ส.ก. ส.ข.
“ปัญหาของเด็กๆ ผมก็ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการศึกษาเล่าเรียน โดยจะผลักดันให้เกิดระบบสื่อการเรียนการสอนผ่านรายการโทรทัศน์ของ กทม. ซึ่งจะเป็นช่องทางให้เด็กๆ ทั่วกรุงเทพฯ สามารถศึกษาเล่าเรียนได้ฟรี เบื้องต้นจะเน้นการสอนพิเศษผ่านรายการดังกล่าว เพื่อให้เด็กๆ ทุกคนมีโอกาสได้เรียนพิเศษฟรีอย่างเท่าเทียมกัน” นายยุรนันท์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาลจะส่งผลกระทบหรือไม่ นายยุรนันท์ กล่าวว่า คนกรุงเทพฯเป็นอิสระ ขณะเดียวกัน กทม.ก็ทำตามนโยบายของกทม.ทุกโครงการยังเดินหน้าต่อไปไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นใครหากตนได้รับเลือกก็ยินดีรับและปฏิบัติตามนโยบายอย่างที่สุดเพื่อประโยชน์ของคน กทม.
** “ลีน่า” ฟุ้งเพิ่มเงินเดือน พนง.เก็บขยะเท่าตัว
ด้าน นางลีนา จังจรรจา (ลีน่า จัง) ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 ลงพื้นที่หาเสียงย่านปากคลองตลาด เมื่อเวลา 04.00 น.โดยได้ร่วมเก็บขยะทำความสะอาดกับเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด กทม.นอกจากนี้ ยังได้ทดลองขับรถขยะอีกด้วย ทั้งนี้ นางลีนา กล่าวว่า ที่ตนมาร่วมเก็บขยะก็เพื่อที่จะได้รู้ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดได้รับเงินเดือนเพียง 7,640 บาท ดังนั้น หากตนได้รับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตนมีนโยบายจะเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงานรักษาความสะอาดเหล่านี้อีกเท่าตัว
ตลอดจนจะมีรณรงค์แยกขยะโดยแจกถุงดำให้ประชาชนนำไปแยกขยะในครัวเรือนก่อนที่จะนำมาทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับ กทม.มากเกินไป ส่วนขยะเปียกก็จะนำไปอัดเป็นแท่งแล้วนำไปถมทะเลหรือทำเป็นปุ๋ยแจกจ่ายให้กับประชาชน นอกจากนี้ จะซื้อเตาเผาขยะติดเชื้อเพื่อแปรพลังงานไฟ
นางลีนา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายตนจะลงพื้นที่ย่านอโศก สุทธิสาร เพราะได้รับข้อมูลมาว่าที่มีการเปิดสปาบังหน้าเพื่อแฝงขายบริการทางเพศ โดยอาคารที่ใช้ก็มีการต่อเติมผิดแบบเพราะมีเจ้าหน้าที่รับสินบน ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.ที่จะต้องจัดการกับปัญหานี้
