ร.ร.มหิดลฯ เตรียมจัดค่ายวิทย์-คณิตศาสตร์ เปิดโอกาสให้นักเรียน ม.1 จาก 30 จังหวัดเข้าค่ายต่อยอดเป็นนักวิจัยในอนาคต
นายธงชัย ชิวปรีชา ผอ.โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ มีโครงการจัดค่ายวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ในช่วงปิดภาคเรียน โดยคัดเลือกเด็กระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จาก 30 จังหวัดมาเข้าค่ายต่อเนื่อง ทุกช่วงปิดภาคเรียนเป็นเวลา 3 ปี รวมเวลา 46 วัน โดยเด็กจะได้เข้าค่ายทั้งสิ้น 6 ครั้ง เพื่อให้เด็กเหล่านี้รักและเห็นคุณค่าของวิชาดังกล่าว รวมทั้งตระหนักถึงคุณประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศของนักวิจัย เป็นการปลูกฝังและสร้างค่านิยมให้เด็กอยากเรียนด้านวิทย์-คณิตฯ จากภายใน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า ประเทศไทยมีเด็กที่มีความสามารถและสนใจด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์จำนวนมากในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น แต่เมื่อเด็กเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ความสนใจในด้านนี้จะลดน้อยลง ส่วนหนึ่งจากค่านิยมของสังคมที่ต้องการให้บุตรหลานเรียนต่อด้านอื่นๆ เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น ส่งผลให้มีบุคลากรเป็นนักวิจัยน้อยมาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้เด็กเห็นคุณค่า และเกิดความชอบจากภายใน
“ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาเรื่องเด็กไม่มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ทุกๆ ปีเราสามารถค้นหาเด็กที่มีความสามารถพิเศษได้จำนวนมาก แต่เมื่อโตขึ้นเด็กจะเบี่ยงเบนความสนใจไปสู่อาชีพที่สังคมให้การยอมรับ และเชื่อว่ามีผลตอบแทนที่ดีกว่า ดังนั้น เราต้องทำให้เด็กได้เข้าใจว่า การเป็นนักวิจัยไม่ใช่อาชีพที่ขี้เหร่ เป็นอาชีพที่สังคมให้การยอมรับ และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างมาก ที่สำคัญการเป็นนักวิจัยสามารถสร้างอนุสาวรีย์ชีวิตให้กับเขาได้ หากมีการค้นพบที่ช่วยพัฒนามนุษยชาติ และเป็นประโยชน์ต่อชนรุ่นหลัง เหมือนที่นักวิจัยหลายๆ คนได้รับการยกย่อง ซึ่งหากเราสามารถสร้างอุดมการณ์เหล่านี้ให้เกิดขึ้นในใจเด็กได้ เขาจะไม่หนเหไปสู่อาชีพอื่น เชื่อว่าจะทำให้ประเทศไทยมีนักวิจัยเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน” นายธงชัย กล่าว
นายธงชัย ชิวปรีชา ผอ.โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ มีโครงการจัดค่ายวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ในช่วงปิดภาคเรียน โดยคัดเลือกเด็กระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จาก 30 จังหวัดมาเข้าค่ายต่อเนื่อง ทุกช่วงปิดภาคเรียนเป็นเวลา 3 ปี รวมเวลา 46 วัน โดยเด็กจะได้เข้าค่ายทั้งสิ้น 6 ครั้ง เพื่อให้เด็กเหล่านี้รักและเห็นคุณค่าของวิชาดังกล่าว รวมทั้งตระหนักถึงคุณประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศของนักวิจัย เป็นการปลูกฝังและสร้างค่านิยมให้เด็กอยากเรียนด้านวิทย์-คณิตฯ จากภายใน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า ประเทศไทยมีเด็กที่มีความสามารถและสนใจด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์จำนวนมากในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น แต่เมื่อเด็กเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ความสนใจในด้านนี้จะลดน้อยลง ส่วนหนึ่งจากค่านิยมของสังคมที่ต้องการให้บุตรหลานเรียนต่อด้านอื่นๆ เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น ส่งผลให้มีบุคลากรเป็นนักวิจัยน้อยมาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้เด็กเห็นคุณค่า และเกิดความชอบจากภายใน
“ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาเรื่องเด็กไม่มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ทุกๆ ปีเราสามารถค้นหาเด็กที่มีความสามารถพิเศษได้จำนวนมาก แต่เมื่อโตขึ้นเด็กจะเบี่ยงเบนความสนใจไปสู่อาชีพที่สังคมให้การยอมรับ และเชื่อว่ามีผลตอบแทนที่ดีกว่า ดังนั้น เราต้องทำให้เด็กได้เข้าใจว่า การเป็นนักวิจัยไม่ใช่อาชีพที่ขี้เหร่ เป็นอาชีพที่สังคมให้การยอมรับ และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างมาก ที่สำคัญการเป็นนักวิจัยสามารถสร้างอนุสาวรีย์ชีวิตให้กับเขาได้ หากมีการค้นพบที่ช่วยพัฒนามนุษยชาติ และเป็นประโยชน์ต่อชนรุ่นหลัง เหมือนที่นักวิจัยหลายๆ คนได้รับการยกย่อง ซึ่งหากเราสามารถสร้างอุดมการณ์เหล่านี้ให้เกิดขึ้นในใจเด็กได้ เขาจะไม่หนเหไปสู่อาชีพอื่น เชื่อว่าจะทำให้ประเทศไทยมีนักวิจัยเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน” นายธงชัย กล่าว