อย.เผย ผลตรวจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันตราย 5 รายการ ลักลอบใส่ยาลดความอ้วน “ไซบูทรามีน” ชี้ เป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ สั่งงดนำเข้า งดจำหน่าย เรียกเก็บคืนจากท้องตลาด ระบุ ผลข้างเคียงทำให้ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค ว่าเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทานแล้ว มีอาการปากแห้ง คอแห้ง นอนไม่หลับ ใจสั่น ตั้งข้อสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจมีส่วนผสมของยาบางชนิด จึงได้ก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพทางวิชาการ ที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 และ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า พบ “ไซบูทรามีน” (sibutramine) ซึ่งเป็นยาลดความอ้วนและเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลาทิน อมาธิส จำนวน 3 รุ่นการผลิต 2.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออนท็อพโกลด์ รุ่นการผลิต Batch No.OGLV08005 Best Before 082011 3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลาทิน แม็กซ์ลิม จำนวน 3 รุ่นการผลิต ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ฉลากระบุนำเข้าและจำหน่ายโดย บริษัท เพนดูรา ไลฟ์ วิชั่นส์
4.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชนิดแคปซูล เอส พลัส โกลด์ 2 เครื่องหมายการค้า พีจี แอนด์ พี จำนวน 3 รุ่นการผลิต คือ รุ่น MFG 06/2008 EXP 06/2010, รุ่น MFG 07/2008 EXP 07/2010 และรุ่น MFG 08/2008 EXP 08/2010 ผลิตโดย บริษัท แอดสโก ดรัคส จำกัด จัดจำหน่ายโดย บริษัท พีจีแอนด์พี เน็ตเวอร์ค จำกัด
และ 5.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผงถั่วเหลืองผสมสาหร่าย สไปรูลิน่า ชนิดแคปซูล เนเจอร์แพล็นท์ เอส พลัส เครื่องหมายการค้า พีจี แอนด์ พี รุ่นการผลิต MFG 05/2008 EXP 05/2010 ผลิตและแบ่งบรรจุ โดยบริษัท สยามไบโอเบสท์ จำกัด จัดจำหน่ายโดย บริษัท เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ จำกัด จึงถือว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้ง 5 รายการดังกล่าวเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ซึ่งผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“อย.ได้สั่งให้ทางบริษัทผู้นำเข้างดนำเข้า และขอให้ผู้จำหน่ายงดจำหน่าย รวมทั้งให้เรียกคืนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือให้ตรวจสอบการจำหน่ายพร้อมเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารรุ่นการผลิตดังกล่าว ส่งตรวจวิเคราะห์หาไซบูทรามีน เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย”รองเลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.นรังสันต์ กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอย่าซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้ง 5 รายการ ในรุ่นการผลิตดังกล่าว ทั้งนี้ ยาไซบูทรามีน ที่พบลักลอบผสม ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น เป็นยาที่ผู้บริโภคไม่ควรบริโภคเองโดยไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์ เพราะเป็นยาที่มีผลข้างเคียง ที่พบบ่อยคือ ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง และหัวใจเต้นเร็ว แม้จะไม่มากนักแต่มีผลให้ผู้ป่วยประมาณร้อยละ 5 จำเป็นต้องหยุดยา ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ ปากแห้ง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ และท้องผูก นอกจากนี้ ยานี้ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ดี ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ ผู้ป่วยโรคตับ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีโรคต้อหิน รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เป็นต้น
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์รุ่นดังกล่าววางจำหน่าย หรือแม้กระทั่งพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หลอกลวงผู้บริโภค เช่น อ้างสรรพคุณในการรักษาโรค หรืออ้างว่าสามารถลดความอ้วนได้ ขอให้ร้องเรียนมายังสายด่วน อย.โทร.1556 เพื่อ อย.จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
