กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจพบไซบูทรามีน-ยาควบคุมพิเศษปนปลอมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เตือนหากบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานาน เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจเสียชีวิตได้ แนะการลดความอ้วนที่เหมาะสม ควรใช้วิธีควบคุมอาหารและเน้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นายแพทย์ มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้ลดความอ้วนจำหน่ายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นระบบขายตรงและวางจำหน่ายตามร้านขายยาและห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แต่เมื่อนำมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคก็อาจจะมีการปนปลอมยาแผนปัจจุบันที่ใช้สำหรับลดความอ้วนลงไปด้วย เพื่อให้ได้ผลดีในการลดน้ำหนัก
ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ดำเนินงานสุ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตามแหล่งจำหน่ายต่างๆ เช่น ร้านค้า แผงลอยในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมจำนวน 8 ตัวอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์ ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์พิษณุโลก ผลการตรวจพบไซบูทรามีนปนปลอมในผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร จำนวน 5 ตัวอย่าง ซึ่งจากการดำเนินงานดังกล่าวทางจังหวัดอุตรดิตถ์จึงได้ออกประกาศและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยทางสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวัง ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว
สำหรับ ไซบูทรามีน (Sibutramine) ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันประเภทควบคุมพิเศษซึ่งใช้ ลดความอ้วน ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปได้ จะต้องจ่ายยาโดยมีใบสั่งแพทย์ และการใช้ยานี้จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากยาดังกล่าวนี้ มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้อิ่มตลอดเวลา แต่มีข้อเสีย คือ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ เพิ่มมากขึ้นและความดันโลหิตสูง ส่วนอาการข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ ซึมเศร้า ปวดศีรษะ ปวดหลัง ข้อเท้าและเท้าบวม ปากแห้ง นอนไม่หลับ ท้องผูก เป็นต้น
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา พบว่า มีรายงานผู้ป่วยที่ใช้ยาไซบูทรามีนเสียชีวิตจำนวน 25 คน และในจำนวนนี้มี 16 คน เสียชีวิต เนื่องจากปัญหาทางหัวใจ ดังนั้น การที่ผู้ผลิตใส่ตัวยาดังกล่าวในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงอาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายได้ โดยเฉพาะถ้าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า หัวใจเต้นเร็วผิดปกติและ อาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นวิธีการลดความอ้วนที่ถูกวิธีและได้ผลดี ควรใช้การควบคุมอาหารที่กินในแต่ละมื้อโดยการลดอาหารที่มีไขมัน แป้งและน้ำตาล เพิ่มผักและผลไม้ให้มากขึ้น
ที่สำคัญ ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนที่เกิน เป็นการลดน้ำหนักอย่างช้าๆ แต่ได้ผลดีถาวรดีกว่าการใช้ยาลดความอ้วน หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้ลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียวและไม่ออกกำลังกาย เพราะเมื่อหยุดใช้ยาก็จะกลับมาอ้วนอีกและอาจจะอ้วนมากกว่าเดิมด้วย