กทม.เปิดรับสมัคร ผู้ว่าฯ กทม.วันแรกสุดเงียบเหงา มีไม่ถึง 10 ราย เจ้าเก่าหน้าเดิมยังมาอื้อ ทั้ง ลีน่า จัง-สุเมธ-ตู่ ติงลี่-ธรณี มีหน้าใหม่โผล่ 3 ราย ส่วนจับหมายเลขประจำตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ คว้าเบอร์ 2 ส่วนหนุ่มนักวิชาการจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอากาศฯ ที่ตกเครื่องบิน เพราะติดม็อบตัดสินใจหอบเงินเดินทางมาสมัครคว้าหมายเลข 4 ลีน่า จัง หมายเลข 3 ด้าน “สุขุมพันธุ์” ชูสโลแกนคืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ ผ่าวิกฤตการเมือง ขณะที่ “อภิสิทธิ์” แก้ปัญหาบ้านเมืองทุกฝ่ายต้องจับมือกัน
วันที่ 30 พ.ย.ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เปิดให้มีการรับสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.เป็นวันแรกโดยจะเปิดรับสมัครวันนี้ไปจนถึงวันที่ 4 ธ.ค.2551 สำหรับบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงกองเชียร์ของผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำป้ายโปรดเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และคืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ มาวางจับจองพื้นที่ไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 น.จากนั้นเมื่อเวลา 05.40 น. นางลีนา จังจรรจา อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่แล้วเดินทางมาถึงศาลาว่าการ กทม.เป็นรายแรก โดยปราศจากกองเชียร์ติดตามเหมือนครั้งที่แล้ว มีเพียงแค่ผู้ติดตามอีก 4 รายเท่านั้น อีกทั้งยังสวมใส่ชุดดำแทนที่จะใส่ชุดสีชมพู หรือสีขาวเหมือนครั้งที่แล้ว
ทั้งนี้ นางลีนา ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ไม่ได้ขนกองเชียร์มา เพราะครั้งที่แล้วใช้งบประมาณไปมาก ครั้งนี้จึงได้งดกองเชียร์แต่การหาเสียงจะเน้นในรูปแบบประชาสัมพันธ์ โปรโมตตัวเอง ส่วนที่ใส่สีดำมาในวันนี้ เพื่อต้องการไว้ทุกข์ให้กับประชาชนที่มีความคิดแตกแยก ต้องมาเข่นฆ่ากันเอง
สำหรับนโยบายนั้น หากประชาชนเลือกตนเข้ามาเป็น ผู้ว่าฯ กทม.จะให้ให้บริการ รถเมล์ รถไฟฟ้า เรือ ที่จอดรถ การศึกษา รวมไปถึงยารักษาโรคฟรี แท็กซี่ไฟฟ้า 25 บาทตลอดสาย และจะจัดตั้งโรงพยาบาล กทม.ที่มีเตียงประมาณ 5,000-10,000 เตียง เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และยาที่ใช้ในการ รักษาจะนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นยาที่ได้มาตรฐาน พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นอกจากนี้ จะเชิญนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายเกียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่แล้ว มาร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตาม มั่นใจถึง 90% ว่า จะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่ากทม.เพราะตนได้ไปดูดวงมาแล้วว่าว่าผู้ว่าฯกทม.คนต่อไปจะเป็นผู้หญิง
ต่อมาเวลา 07.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางมาถึงบริเวณศาลาว่าการ กทม.พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีต ผู้ว่าฯ กทม.และในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานอำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม.และ นายมารุต บุนนาค อดีต ส.ส.พรรค ปชป.หลายสมัย จากนั้นเวลา 07.47 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. ได้เดินทางมาให้กำลังใจด้วย
ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การหาเสียงจะเดินหน้าเต็มที่หลังจากวันที่ 5 ธันวาคม เนื่องจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังคงวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม การหาเสียงจะมุ่งเน้นพบปะชุมชน เพื่อเข้าถึงทุกๆ คน สำหรับแนวทางการหาเสียงท่ามกลางกระแสการเมืองที่วุ่นวายนั้น นายกรณ์ จะมีการประเมินสถานการณ์และแนวทางการหาเสียงร่วมกับผู้สมัครเป็นรายวัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมชี้แจงต่อกรณีคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.หรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวสั้นๆ ว่า ตนและพรรคพร้อมจะชี้แจงข้อเท็จจริงทุกอย่าง ซึ่งไม่ได้กังวลใดๆ
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนจะนำนโยบายของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.เมื่อครั้งที่ผ่านมามาหาเสียง เพราะนโยบายที่ได้รับคะแนนเสียงอย่างท้วมท้นจากประชาชน ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ประชาคมอันศักดิ์สิทธิ์โดยตนพร้อมจะสานต่อและปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์ ทั้งนี้ ไม่รู้สึกหนักใจกับกว่า 9 แสนคะแนน ที่ นายอภิรักษ์ ได้รับเลือกตั้งเข้ามา เพราะคะแนนเหล่านี้ถือเป็นคะแนนของประชาชน และไม่ว่าจะได้คะแนนเท่าไหร่ก็ชนะเหมือนกันส่วนปัญหาความไม่โปร่งใสของโครงการต่างๆ ก็ไม่ได้ทำให้หนักใจ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง
“ผมไม่ได้มาลงเพื่อแพ้แต่จะเดินหน้าหาเสียงเต็มที่อย่างไม่ประมาท และไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่ผมประมาท เพราะถ้าประมาทก็แสดงว่าไม่เคารพประชาชน ทั้งนี้ ในวันที่ 4-5 ธ.ค.ผมจะงดหาเสียงเพื่อถวายพระพรในหลวง และวันเทศกาลปีใหม่ก็จะงดหาเสียงเช่นกัน เพราะผมเคารพความรู้สึกของประชาชน จึงไม่อยากรบกวนวันหยุด แต่นอกจากนั้น พวกผมจะเต็มที่ทำงานหนักผนึกกำลังกับทุกภาคส่วน ซึ่งผมก็ได้รับคำแนะนำจากคุณอภิรักษ์ในการลงพื้นที่หาเสียง ซึ่งผมจะชูสโลแกนคืนความสุขให้คนกรุงเทพฯ เพราะวันนี้บ้านเมืองของเราวุ่นวายจึงต้องการสร้างความสุขโดยจะจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสุขให้ครอบครัว สังคม ผ่านกิจกรรมด้านกีฬา ศิลปวัฒนธรรมต่างๆ พร้อมทั้งจะประสานให้สำนักงานเขตทุกเขตระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมที่จะเสริมสร้างความสุขในแต่ละพื้นที่ด้วย” ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าว
ด้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมือง ทำให้คนเบื่อการเมืองมาก จึงกังวลว่าประชาชนจะไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ พรรคยืนยันว่าการหาเสียงยังคงเข้มข้น ไม่มีปัญหา โดยมั่นใจว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะได้รับชัยชนะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตัดสินใจยุบสภา ก่อนจะมีการตัดสินคดียุบพรรค จะส่งผลอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากยุบสภาก็ไม่ขัดข้อง แต่ที่ผ่านมานายกฯ ออกมายืนยันว่า จะไม่มีการยุบสภา แต่หากไม่ตัดสินใจอะไรความเสียหายก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เพราะเชื่อว่าไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด และทำให้เรื่องจบลงได้ ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ถือเป็นการแสดงออกทางความคิดอย่างหนึ่ง ส่วนการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะมีการรวมมวลชนเพื่อเคลื่อนไหวในวันนี้ เชื่อว่า เป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องไม่เกิดการปะทะกัน ทางที่ดีที่สุดควรมีการเจรจา โดยรัฐบาลต้องเป็นฝ่ายออกมาพูดคุยก่อนโดยไร้เงื่อนไข ส่วนการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องผลประโยชน์เท่านั้น
“ลึกๆ แล้ว เชื่อว่า ทุกฝ่ายทั้งรัฐบาลและพันธมิตรฯต่างก็ทุกข์ใจกันทั้งหมด เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องหันหน้าคุยกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งใครก็ไม่สามารถช่วยได้ นอกจากคู่กรณีเท่านั้น อยากเรียกร้องทั้งสองฝ่ายว่า พอกันหรือยัง อย่าให้สูญเสียมากกว่านี้” หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากกองเชียร์จากพรรคประชาธิปัตย์แล้วยังขบวนแห่เชิดสิงโตของร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ หรือ ตู่ ติงลี่ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก็มาถึงซึ่งได้สร้างความคึกคักได้พอสมควร ซึ่งครั้งนี้ ร.อ.เมตตา ยังคงมาด้วยมาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ พร้อมถือไม้เท้าสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ร.5 มีดหลวงปู่ฤๅษีนารอดเพื่อให้บ้านเมืองพ้นจากสถานการณ์ในขณะนี้ ในส่วนของนโยบายนั้น ร.อ.เมตตา ให้สัมภาษณ์ว่า ใช้หลักเมตตาธรรม คุณธรรม เน้นนโยบายปราบปรามอิทธิพลและยาเสพติดพร้อมมุ่งเน้นปัญหาคนว่างงานจากพิษเศรษฐกิจตกต่ำ
ด้านนายกงจักร ใจดี นักวิชาการภูมิสารสนเทศ จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอากาศและภูมิสารสนเทศ องค์การมหาชน ที่มาพร้อมกับหมวกลูกโลกคลุมหัว และป้ายสโลแกนคล้องคอ “ศาสนโลก ธรรมโลก ไร้ทุกข์ ไร้กิเลส รู้เหตุผล UNITED WORLD สันติภาพ เสรีภาพ” พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ที่ตัดสินใจมาสมัครวันนี้เนื่องจากตนไม่สามารถเดินทางไปดูงานที่ปนะเทศโปแลนด์ได้เนื่องจากติดม็อบจึงตัดสินใจนำเงินที่ใช้จ่ายในการเดินทางมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน
ทั้งนี้ กทม.ได้เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อแสดงความประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ณ โต๊ะลงทะเบียนหน้าห้องรัตนโกสินทร์ จนถึงเวลา 08.30 น. ปรากฏว่า มีผู้มาลงทะเบียนจำนวน 7 ราย ได้แก่ นางลีนา จังจรรจา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ นายกงจักร ใจดี นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นายอิสระ อมรเวช และ นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์
จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร โดยเจ้าหน้าที่รับสมัครเขียนชื่อผู้สมัครที่ลงทะเบียนเวลาไว้ก่อนเวลา 08.30 น.ลงในภาชนะที่จับสลาก และให้ นายพงษ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.ทถ.กทม.) เป็นผู้จับสลากเพื่อให้ทราบว่าผู้สมัครรายใดจะเป็นผู้มีสิทธิจับสลากครั้งที่ 2 ก่อนหลังจากนั้น เข้าสู่กระบวนการจับสลากครั้งที่ 2 เพื่อรับลำดับที่ในการยื่นใบสมัครและหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ปรากฏว่าหมายเลข 1 นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล หมายเลข 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 3 นางลีนา จังจรรจา หมายเลข 4 นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์ หมายเลข 5 นายกงจักร ใจดี หมายเลข 6 ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ และหมายเลข 7 นายอิสระ อมรเวช