กกต.กทม. เน้นจัดอีเวนท์เลือกตั้ง เชิญชวนชาว กทม.ใช้สิทธิ์ ระบุผู้ว่าฯ กทม.สำคัญกว่า สส.และ สว. หวั่นเดือนมกราคมการเมืองอึมครึม กระทบเลือกตั้งหงอย เผยกำหนดวันรับสมัคร30 พ.ย. – 4 ธ.ค.และกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 11 ม.ค. 2552
วันที่ (21 พ.ย. 2551) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกทม. (กกต.ทถ.กทม.) ประกอบด้วย 1.นายมนูญ ศิริวรรณ เป็นประธาน กกต.ทถ.กทม.2.นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ เป็นผู้อำนวยการ กกต.ทถ.กทม. 3.พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา 4.นายประวิทย์ ขุนแขวง 5.นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์
ภายหลังจากการประชุม กกต.ทถ.กทม.นัดแรก นายมนูญ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้กำหนดวันรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 30 พ.ย. – 4 ธ.ค.2551 และกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 11 ม.ค. 2552 โดยเห็นว่าวันดังกล่าวเหมาะสมแล้ว และไม่น่าเป็นอุปสรรคตามที่หลายฝ่ายกังวล นอกจากนี้ได้มีการหารือเรื่องระเบียบการติดป้ายหาเสียง ซึ่งมี 2 ขนาดคือ 30x42 เซนติเมตร และ 130x245 เซนติเมตร โดยผู้สมัครสามารถติดตั้งป้ายได้ไม่เกิน 5 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ทถ.กทม.จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เกิดปัญหาต่างๆ ในการเลือกตั้ง
นายมนูญ กล่าวว่า ฝ่ายประสัมพันธ์ของ กทม.จะต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนออกมาลงคะแนนเสียงให้มากขึ้น ทั้งทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. นอกจากนี้ จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกให้มากขึ้น โดยการจัดอีเวนท์ การสัมมนา หรือการจัดเวทีอภิปรายต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึงงบประมาณประชาสัมพันธ์ 19 ล้านบาท ว่าจะพอหรือไม่ หรืออาจขอความร่วมมือหน่วยงานอื่น
ประธาน กกต.ทถ.กทม. กล่าวเพิ่มว่า มีความเป็นห่วงว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์น้อย เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง อีกทั้งประชาชนอาจเกิดความเบื่อหน่าย เพราะเพิ่งมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยสถิติผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีเพียง 54.18% เท่านั้น ซึ่งครั้งนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 60%
“ถ้าเดือนมกราคมเหตุการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายก็อาจส่งผลดีต่อการเลือกตั้ง แต่ถ้ายังคลุมเคลืออยู่ก็จะกระทบต่อการเลือกตั้งได้ จึงอยากจะเร่งประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนออกมาลงคะแนนเสียงกันให้มาก เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นเรื่องใกล้ตัวประชาชน ไม่เหมือนกับ ส.ส. หรือ ส.ว.” นายมนูญ กล่าว
นายประวิทย์ ขุนแขวง กกต.ทถ.กทม. กล่าวว่า มีความกังวลว่าการจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 11 ม.ค.2552 ซึ่งต่อเนื่องจากวันเด็กแห่งชาติในวันที่ 10 ม.ค.2552 อาจทำให้เกิดความขลุกขลักในการจัดสถานที่เลือกตั้ง โดยเกรงว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะติดขัดอุปสรรคในการจัดเตรียมคูหาเลือกตั้ง โดยเฉพาะตามบริเวณโรงเรียนต่างๆ จึงขอให้ทาง กทม.พิจารณาเรื่องนี้และเร่งประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการรองรับ
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า การจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ควรมีการระดมนักศึกษาเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้น และต้องเร่งดำเนินการตั้งแต่วันนี้ โดยประสานกับทางมหาวิทยาลัยในการจัดนักศึกษามาเป็นอาสาสมัครเพื่อสังเกตการณ์ตามหน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ
ด้านนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสและเสริมสร้างประสบการณ์ทางการเมืองให้แก่เยาวชน ขณะเดียวกัน จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือเรื่องงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งและปรับแผนประชาสัมพันธ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณต่ำกว่าครั้งที่แล้ว เนื่องจากอุปกรณ์บางอย่างสามารถนำมาใช้ต่อได้
