ปลัด กทม.เตรียมส่งหนังสือถึง กกต.แจ้งการลาออกของ “อภิรักษ์” ด้าน “วรัญชัย โชคชนะ" อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หลายสมัยประกาศตัวลงชิงชัยเก้าอี้พ่อเมืองกรุงอีกครั้ง โวแก้ปัญหา สลัม แฟลต หาบเร่ เด็กเร่ร่อน เรียนฟรี รถไฟฟ้าใต้ดินทั่ว พท.กทม.
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขณะนี้การลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มีผลอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตนและรอง ปลัด กทม.ทั้ง 3 คนจะได้แบ่งงานกันรับผิดชอบ และดำเนินการจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) จะทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้รับทราบถึงการลาออกของ นายอภิรักษ์ และเสนอการรับสมัครเลือกตั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค.2551 และมีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 11 ม.ค.2552 และประชุมหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์อำนวยการการเลือกตั้ง
ส่วนงบประมาณในการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อไม่แตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา และอาจมีการนำอุปกรณ์การเลือกตั้งเดิมมาใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากเพิ่งผ่านการใช้งานไม่นานยังไม่มีการชำรุด
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นั้น งานอื่นๆ ที่อดีตผู้ว่าฯ กทม.ได้อนุมัติและวางแนวทางการบริหารไปแล้วนั้นก็ยังคงเดินหน้าตามปกติ ตนและรองปลัดกทม.ปฏิบัติในส่วนของงานประจำเท่านั้น
ขณะที่นายวรัญชัย โชคชนะ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลายสมัย ได้เดินทางเข้าพบสื่อมวลชนที่ห้องสื่อกทม. โดยยืนยันว่าจะกลับมาลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง หลังจากที่คราวที่แล้วไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากติดปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง และตนอยู่กลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของตนครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 6 แล้ว และเชื่อว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันนี้เบาบางลง และต้องการสร้างสีสันให้กับการเลือกตั้ง และเชื่อว่า มีโอกาส เนื่องจาก ตัวเต็งอย่าง นายประภัสร์ จงสงวน ไม่ประกาศไม่ลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ส่วน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และ นางลีนา จังจรรจา (ลีน่า จัง) ก็ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งหากพรรคพลังประชาชนต้องการสนับสนุนตน ตนก็มีความยินดี และไม่มีความวิตกกังวลในช่วงสถานการณ์ที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะเชื่อว่าอย่างไรก็ตามการเมืองระดับท้องถิ่นก็มีความเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติ
ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า สำหรับนโยบายที่ตนจะใช้หาเสียงในครั้งนี้ อาทิ แก้ปัญหาแหล่งเสื่อมโทรม สลัม แฟลต โดยไม่ต้องย้าย แก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย ต่อส่วนขยายรถไฟฟ้าใต้ดินให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม.1,500 ตารางกิโลเมตร แก้ปัญหาเด็กเร่ร่อน ขอทาน ยากจน คนด้อยโอกาส ให้การศึกษาฟรี และราคาถูก ให้รักษาฟรีและราคาถูก ให้มีสำนักงาน ส.ก.และ ส.ข.รับเรื่องราวร้องทุกข์ ให้มีการเลือกตั้ง ผอ.เขตทั้ง 50 เขต เป็นต้น
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขณะนี้การลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มีผลอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตนและรอง ปลัด กทม.ทั้ง 3 คนจะได้แบ่งงานกันรับผิดชอบ และดำเนินการจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) จะทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้รับทราบถึงการลาออกของ นายอภิรักษ์ และเสนอการรับสมัครเลือกตั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค.2551 และมีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 11 ม.ค.2552 และประชุมหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์อำนวยการการเลือกตั้ง
ส่วนงบประมาณในการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อไม่แตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา และอาจมีการนำอุปกรณ์การเลือกตั้งเดิมมาใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากเพิ่งผ่านการใช้งานไม่นานยังไม่มีการชำรุด
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นั้น งานอื่นๆ ที่อดีตผู้ว่าฯ กทม.ได้อนุมัติและวางแนวทางการบริหารไปแล้วนั้นก็ยังคงเดินหน้าตามปกติ ตนและรองปลัดกทม.ปฏิบัติในส่วนของงานประจำเท่านั้น
ขณะที่นายวรัญชัย โชคชนะ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลายสมัย ได้เดินทางเข้าพบสื่อมวลชนที่ห้องสื่อกทม. โดยยืนยันว่าจะกลับมาลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง หลังจากที่คราวที่แล้วไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากติดปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง และตนอยู่กลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของตนครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 6 แล้ว และเชื่อว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันนี้เบาบางลง และต้องการสร้างสีสันให้กับการเลือกตั้ง และเชื่อว่า มีโอกาส เนื่องจาก ตัวเต็งอย่าง นายประภัสร์ จงสงวน ไม่ประกาศไม่ลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ส่วน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และ นางลีนา จังจรรจา (ลีน่า จัง) ก็ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งหากพรรคพลังประชาชนต้องการสนับสนุนตน ตนก็มีความยินดี และไม่มีความวิตกกังวลในช่วงสถานการณ์ที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะเชื่อว่าอย่างไรก็ตามการเมืองระดับท้องถิ่นก็มีความเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติ
ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า สำหรับนโยบายที่ตนจะใช้หาเสียงในครั้งนี้ อาทิ แก้ปัญหาแหล่งเสื่อมโทรม สลัม แฟลต โดยไม่ต้องย้าย แก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย ต่อส่วนขยายรถไฟฟ้าใต้ดินให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม.1,500 ตารางกิโลเมตร แก้ปัญหาเด็กเร่ร่อน ขอทาน ยากจน คนด้อยโอกาส ให้การศึกษาฟรี และราคาถูก ให้รักษาฟรีและราคาถูก ให้มีสำนักงาน ส.ก.และ ส.ข.รับเรื่องราวร้องทุกข์ ให้มีการเลือกตั้ง ผอ.เขตทั้ง 50 เขต เป็นต้น