โครงการดอยตุงฯ เตรียมนำพันธุ์ไม้จำนวน 55,000 ต้น เข้ามาตกแต่งพระเมรุ แทนต้นที่หมดอายุ ในช่วงงานนิทรรศการ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ในสัปดาห์หน้า เน้นไม้เมืองหนาวโทนสีฟ้าอมม่วง ห่วงปัญหาฝนตก แดดร้อนจัด ทำให้ดอกโลบีเลีย ซึ่งมีกลีบบางเสียหาย
นายประวิทย์ บุญมี ผู้อำนวยการฝ่ายเกษตร สำนักงานประสานโครงการดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวถึงการดูแลพันธุ์ไม้รอบพระเมรุ ให้คงทนตลอดการจัดนิทรรศการ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ระหว่างวันที่ 18 -30 พ.ย.ว่า ได้จัดเตรียมพันธุ์ไม้ใหม่ เพื่อทดแทนพันธุ์ไม้ที่หมดอายุในสัปดาห์หน้า เกือบ 27% จำนวน 55,000 ต้น ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้เมืองหนาว อาทิ อาชูการ์ ฟอร์เก็ตมีนอท ไวโอล่า พิทูเนีย มอร์นิ่งกอรี่ ลิ้นมังกร เพื่อให้ความสวยงามคงทนไปจนถึงสิ้นเดือน ส่วนในเขตรั้วราชวัติ และรอบพระเมรุ จะยังคงสภาพเดิมทุกประการ เน้นพันธุ์ไม้สีฟ้าอมม่วงเป็นหลัก
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า พันธุ์ไม้ที่ห่วงเป็นพิเศษที่ต้องดูแลให้สวยงามคงทนตลอดงานนิทรรศการ คือ โลบีเรีย บูลมูน เนื่องจากเป็นไม้เมืองหนาวมีกลีบบาง หากมีฝนตกหนัก หรือแดดร้อนจัด กลีบดอกจะได้รับความเสียหาย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ใหม่ที่มีกลีบหนาเข้ามาทดแทน เนื่องจากมีความคงทนมากกว่า แต่ยังคงเน้นเป็นดอกไม้สีฟ้าเป็นหลัก ส่วนดอกฟอร์เก็ตมีนอท ซึ่งถือเป็นดอกไม้สำคัญของงาน เพราะสื่อความหมายว่า “พสกนิกรจะจดจำพระองค์ไปชั่วนิจนิรันดร์” มีปัญหาเรื่องกลีบโรยเร็ว ขณะนี้ได้สั่งการให้เตรียมต้นไม้ใหม่มาทดแทนแล้ว
นายประวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการดูแลไม้ดอกไม้ประดับรอบพระเมรุนั้น มีการให้ปุ๋ยและสารเคมีบ้าง เพื่อให้ดอกไม้คงทน และเป็นแนวทางเดียวกับสวนแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แต่สิ่งที่ห่วงมาก คือ เรื่องของคนที่เดินทางเข้ามา ขอความร่วมมือให้ช่วยดูแลต้นไม้ และคำนึงถึงคนข้างหลังเสมอ อย่าดึง อย่าถอนดอกไม้ต้นไม้ เพื่อให้ความงามดังกล่าวเก็บไว้ชื่นชมได้นาน และมีความสมบูรณ์เหมือนเช่นวันแรกที่เปิดให้เข้าชม อย่างไรก็ตาม คงไม่มีปักป้ายห้ามหรือกั้นรั้วเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมีความเคารพต่อสถานที่ และมีความระมัดระวัง
นายประวิทย์ บุญมี ผู้อำนวยการฝ่ายเกษตร สำนักงานประสานโครงการดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวถึงการดูแลพันธุ์ไม้รอบพระเมรุ ให้คงทนตลอดการจัดนิทรรศการ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ระหว่างวันที่ 18 -30 พ.ย.ว่า ได้จัดเตรียมพันธุ์ไม้ใหม่ เพื่อทดแทนพันธุ์ไม้ที่หมดอายุในสัปดาห์หน้า เกือบ 27% จำนวน 55,000 ต้น ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้เมืองหนาว อาทิ อาชูการ์ ฟอร์เก็ตมีนอท ไวโอล่า พิทูเนีย มอร์นิ่งกอรี่ ลิ้นมังกร เพื่อให้ความสวยงามคงทนไปจนถึงสิ้นเดือน ส่วนในเขตรั้วราชวัติ และรอบพระเมรุ จะยังคงสภาพเดิมทุกประการ เน้นพันธุ์ไม้สีฟ้าอมม่วงเป็นหลัก
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า พันธุ์ไม้ที่ห่วงเป็นพิเศษที่ต้องดูแลให้สวยงามคงทนตลอดงานนิทรรศการ คือ โลบีเรีย บูลมูน เนื่องจากเป็นไม้เมืองหนาวมีกลีบบาง หากมีฝนตกหนัก หรือแดดร้อนจัด กลีบดอกจะได้รับความเสียหาย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ใหม่ที่มีกลีบหนาเข้ามาทดแทน เนื่องจากมีความคงทนมากกว่า แต่ยังคงเน้นเป็นดอกไม้สีฟ้าเป็นหลัก ส่วนดอกฟอร์เก็ตมีนอท ซึ่งถือเป็นดอกไม้สำคัญของงาน เพราะสื่อความหมายว่า “พสกนิกรจะจดจำพระองค์ไปชั่วนิจนิรันดร์” มีปัญหาเรื่องกลีบโรยเร็ว ขณะนี้ได้สั่งการให้เตรียมต้นไม้ใหม่มาทดแทนแล้ว
นายประวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการดูแลไม้ดอกไม้ประดับรอบพระเมรุนั้น มีการให้ปุ๋ยและสารเคมีบ้าง เพื่อให้ดอกไม้คงทน และเป็นแนวทางเดียวกับสวนแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แต่สิ่งที่ห่วงมาก คือ เรื่องของคนที่เดินทางเข้ามา ขอความร่วมมือให้ช่วยดูแลต้นไม้ และคำนึงถึงคนข้างหลังเสมอ อย่าดึง อย่าถอนดอกไม้ต้นไม้ เพื่อให้ความงามดังกล่าวเก็บไว้ชื่นชมได้นาน และมีความสมบูรณ์เหมือนเช่นวันแรกที่เปิดให้เข้าชม อย่างไรก็ตาม คงไม่มีปักป้ายห้ามหรือกั้นรั้วเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมีความเคารพต่อสถานที่ และมีความระมัดระวัง