รองปลัด กทม.เผยเตรียมประสานมหาดไทย ขอหารือยกเลิกสัญญารถดับเพลิงฉาว แต่ต้องรอสำเนาชี้มูลจาก ป.ป.ช.ก่อน ระบุ หากชัดเจนสัญญาเป็นโมฆะฟ้องเรียกเงินคืนจาก สไตเออร์ฯ ได้แน่ แต่เชื่อต้องสู้กันยาวถึง 3 ศาล
จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) มูลค่า 6,687 ล้านบาท รวมทั้งให้ความเห็นเกี่ยวกับสัญญาโครงการ ว่า เป็นโมฆะ และให้กระทรวงมหาดไทย กับ กทม.ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมพิจารณาต่อไปว่าจะสามารถยกเลิกสัญญาได้หรือไม่นั้น นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ ว่า ขณะนี้ กทม.จะต้องรอให้ ป.ป.ช.ส่งสำเนาการชี้มูลอย่างเป็นทางการมาก่อน จึงจะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารืออย่างละเอียดว่ามีการชี้มูลอย่างไรบ้าง เนื่องจากที่ผ่านมาทราบเพียงรายละเอียดบางส่วนที่เผยแพร่ตามสื่อสิ่งพิมพ์เท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่า ประมาณ 1 สัปดาห์ สำเนาการชี้มูลคงส่งมาถึงมือ กทม.หลังจากนั้น กทม.จะรีบดำเนินการทันที
นายรัฐพล กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน กทม.จะประสานหารือไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมกันหาทางออกเนื่องจากสัญญาโครงการดังกล่าวทำในระดับรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสัญญาโครงการเป็นโมฆะแล้ว แต่แนวทางการยกเลิกสัญญาทุกฝ่ายจะต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบ หากสัญญาเป็นโมฆะและสามารถยกเลิกสัญญาได้ กทม.ต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่างวดรถที่จ่ายไปให้กับ บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาย์ซอย์ จำกัด ประเทศออสเตรีย จำนวน 4 งวด คืนมาทั้งหมด ซึ่งในสัญญาระบุว่าต้องดำเนินการตั้งคณะอนุญาโตตุลาการเพื่อมาหาข้อยุติร่วมกัน แต่เรื่องนี้หากตกลงกันไม่ได้ ตนเชื่อว่าจะต้องฟ้องร้องต่อสู้กันใน 3 ศาลอย่างแน่นอน และหากใครที่ไปทำให้สัญญาเป็นโมฆะก็จะต้องรับผิดชอบไปด้วย
จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) มูลค่า 6,687 ล้านบาท รวมทั้งให้ความเห็นเกี่ยวกับสัญญาโครงการ ว่า เป็นโมฆะ และให้กระทรวงมหาดไทย กับ กทม.ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมพิจารณาต่อไปว่าจะสามารถยกเลิกสัญญาได้หรือไม่นั้น นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ ว่า ขณะนี้ กทม.จะต้องรอให้ ป.ป.ช.ส่งสำเนาการชี้มูลอย่างเป็นทางการมาก่อน จึงจะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารืออย่างละเอียดว่ามีการชี้มูลอย่างไรบ้าง เนื่องจากที่ผ่านมาทราบเพียงรายละเอียดบางส่วนที่เผยแพร่ตามสื่อสิ่งพิมพ์เท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่า ประมาณ 1 สัปดาห์ สำเนาการชี้มูลคงส่งมาถึงมือ กทม.หลังจากนั้น กทม.จะรีบดำเนินการทันที
นายรัฐพล กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน กทม.จะประสานหารือไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมกันหาทางออกเนื่องจากสัญญาโครงการดังกล่าวทำในระดับรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสัญญาโครงการเป็นโมฆะแล้ว แต่แนวทางการยกเลิกสัญญาทุกฝ่ายจะต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบ หากสัญญาเป็นโมฆะและสามารถยกเลิกสัญญาได้ กทม.ต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่างวดรถที่จ่ายไปให้กับ บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาย์ซอย์ จำกัด ประเทศออสเตรีย จำนวน 4 งวด คืนมาทั้งหมด ซึ่งในสัญญาระบุว่าต้องดำเนินการตั้งคณะอนุญาโตตุลาการเพื่อมาหาข้อยุติร่วมกัน แต่เรื่องนี้หากตกลงกันไม่ได้ ตนเชื่อว่าจะต้องฟ้องร้องต่อสู้กันใน 3 ศาลอย่างแน่นอน และหากใครที่ไปทำให้สัญญาเป็นโมฆะก็จะต้องรับผิดชอบไปด้วย