xs
xsm
sm
md
lg

กระทรวงศึกษาฯ สั่งทำแผน ขอแบ่งเค้กงบกระตุ้น ศก.แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศธ.เตรียมสำรวจพื้นที่เพื่อทำโครงการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปี 1 แสนล้าน เน้นกระจายรายได้ระดับตำบล และ หมู่บ้าน โดยเฉลี่ยตำบลละประมาณ 12-13 ล้านบาท มอบ สพฐ.และ อาชีวศึกษา หารือร่วมกันเพื่อที่จะกระจายงานลงไปในพื้นที่ต่างๆ “ชินภัทร” เผย “ศรีเมือง” ไม่ตื่นงบ มาช่วยสานต่อนโยบายของ “สมชาย” โดยนำงบมาใช้ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนการงบเพื่อปรับวิทยฐานะเป็นไปตามข้อกฎหมาย และเป็นสิทธิที่ครูพึงได้รับ

นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่จะขอเพิ่มในปี 2552 อีก 1 แสนล้านบาท ซึ่งมี นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมได้ชี้แจงถึงวิธีการจัดทำโครงการเสนอของบในส่วนดังกล่าว ซึ่งโครงการที่จะเสนอขอนั้นจะต้องไม่ใช่เป็นความต้องการของหน่วยงานที่เสนอมาเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องดำเนินการเพื่อเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ด้วย เพราะงบกลางปีเป็นงบที่เน้นกระจายรายได้การกระตุ้นเศรษฐกิจระดับตำบลหมู่บ้าน ดังนั้น เม็ดเงินที่ลงไปจึงต้องกระจายลงไปยังพื้นที่ในเม็ดเงินที่ไม่ต่างกันมาก โดยเฉลี่ยตำบลละประมาณ 12-13 ล้านบาท เมื่อเป็นเช่นนี้โครงการที่ ศธ.เสนอจะลงไปเข้มที่จุดใดจุดหนึ่งเกินไปไม่ได้

ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของ ศธ.นั้น ที่ประชุมได้มอบให้สำนักงานปลัด (สป.) ศธ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) หารือร่วมกันเพื่อที่จะกระจายงานลงไปในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะต้องมีการจัดแผนที่ เพื่อดูการกระจายของพื้นที่ว่าเราจะลงโครงการไปในพื้นที่ส่วนใดบ้าง อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการที่ ศธ.จะดำเนินการนั้น สป.เน้นการทำวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการศึกษา เพราะเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และยังทำให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น รับทราบแนวนโยบายทางการศึกษา การมีส่วนร่วมในการดูแลบุตรหลาน เป็นต้น ส่วน สพฐ.และ สอศ.นั้น จะเน้นการซ่อมแซมอาคารเรียนที่ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งมีมากกว่าหมื่นโรงเรียน นอกจากนี้ จะพัฒนาโรงเรียนที่เน้นความเป็นเลิศ โรงเรียนในฝัน และโรงเรียนดีใกล้บ้านด้วย

นายชินภัทร เปิดเผยถึงกรณีที่นักวิชาการวิจารณ์การทำงานของ นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าเป็นยุคตื่นงบประมาณ ว่า แต่ละคนสามารถวิจารณ์ได้แตกต่างกันไปทั้งทางบวกและทางลบ แต่ตนคิดว่าขณะนี้งานการศึกษากำลังเดินไปได้เรื่อยๆ ไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นถึงความชะงักงัน ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละคนก็มีจุดเน้นที่ต่างกัน โดยยุคนายศรีเมือง ก็เน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการศึกษา แต่เรื่องนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่สมัย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นอดีต รมว.ศึกษาธิการ แล้ว โดยเฉพาะเรื่องอีเลิร์นนิง จึงถือเป็นเรื่องดีที่แม้ว่า จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีแต่ก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องนี้อยู่ ซึ่งรู้สึกว่าไม่เป็นความสูญเปล่า และเป็นพลังสนับสนุนที่จะทำงานต่อไป ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี และนโยบายก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย เพราะจะทำให้งานเก่าต้องหยุดเดิน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดเห็นอย่างไรในกรณีที่นักวิชาการ ระบุว่า ใช้งบส่วนใหญ่ไปกับเรื่องโครงสร้าง และการปรับเงินเดือน โดยเฉพาะเงินวิทยฐานะ นายชินภัทร กล่าวว่า วิทยฐานะเป็นเรื่องที่เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นสิทธิที่ครูพึงจะได้รับ ดังนั้น ศธ.จึงต้องดูแลจะละเลยไม่ได้ แต่ก็ต้องอธิบายต่อสาธารณะให้ได้ด้วยว่า ทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน และมีผลต่อการศึกษา ไม่ใช่ทำเพื่อเอาใจครูเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ศธ.กำลังดำเนินการให้เรื่องวิทยฐานะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพทั้งตัวครู และผู้เรียน ซึ่งประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ จะมีการจัดเวทีเสวนาเพื่อแก้ปัญหาครูทั้งระบบ โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นเจ้าภาพเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับครูมาเสวนาร่วมกัน เพื่อช่วยกันเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น