กรมอนามัยแนะผู้สูงอายุดูแลสุขภาพรับลมหนาว ชี้สร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย หลีกเลี่ยงอาบน้ำกลางคืน เตือนระวังโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ ไข้หวัด อาจส่งผลลุกลามจนเป็นปอดบวม พร้อมทั้งดูแลรักษาผิวหนัง ทาโลชั่น น้ำมันมะกอก ป้องกันผิวแห้ง จนอาจนำไปสู่การติดเชื้อทางผิวหนัง ระบุออกกำลังกายเบาๆ กินอาหารร้อนๆ เพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการดูแลผู้สูงอายุในช่วงหน้าหนาว ว่า เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงของปลายฝนต้นหนาว ทำให้บางพื้นที่ของประเทศไทยมีอุณหภูมิลดต่ำลง ประชาชนต้องดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับกับสภาพความเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะกลุ่มของผู้สูงอายุ นับเป็นวัยที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพได้ง่าย การป้องกันและดูแลสุขภาพในช่วงหน้าหนาว จึงต้องสร้างความอบอุ่นร่างกายให้กับตนเอง โดยการใส่เสื้อผ้าอย่างมิดชิด หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในเวลากลางคืน แต่หากจำเป็นต้องอาบก็ให้บริหารร่างกายโดยการยืดเส้นยืดสายก่อน เพราะน้ำเย็นจะทำให้หลอดเลือดมีการขยายตัวเล็กน้อย
นอกจากการดูแลเบื้องต้นแล้วผู้สูงอายุควรมีการดูแล ป้องกันโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดแล้วดูแลสุขภาพไม่ดี อาจจะลุกลามจนนำไปสู่โรคปอดบวมได้ นอกจากนี้โรคผู้สูงอายุที่พบบ่อยมากในช่วงหน้าหนาว คือ โรคที่เกี่ยวข้องกับโรคผิวหนัง เพราะปกติแล้วผู้สูงอายุมีผิวหนังบอบบางและแห้งเมื่อเจออากาศเย็น และความชื้นที่ลดลงจนทำให้เกิดอาการคัน เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนังได้ง่าย หากมีการเกาอย่างแรงแต่สามารถป้องกันได้โดยการทาครีมโลชั่น หรือน้ำมันมะกอก เพื่อสร้างความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับผู้สูงอายุคือการออกกำลังกาย เพราะสภาพอากาศที่หนาวจะทำให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายได้นานกว่าเดิม เพราะไม่เหนื่อยเท่ากับอากาศร้อน ซึ่งสามารถเลือกออกกำลังกายง่ายๆ ได้เช่น การเดิน หรือวิ่งช้าๆ การขี่จักรยาน การรำมวยจีนเป็นต้น
“ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้สูงอายุต้องให้ความสำคัญอีกอย่าง คือ การบริโภคอาหาร เพราะความเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไขเร็วขึ้น ก่อนการบริโภคควรนำอาหารอุ่นให้ร้อน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกายอีกทางหนึ่ง หากผู้สูงอายุปฏิบัติได้ตามขั้นตอนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้สุขภาพดีช่วงหน้าหนาวเท่านั้น แต่จะส่งผลดีต่อสุขภาพระยะยาวอีกด้วย” นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการดูแลผู้สูงอายุในช่วงหน้าหนาว ว่า เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงของปลายฝนต้นหนาว ทำให้บางพื้นที่ของประเทศไทยมีอุณหภูมิลดต่ำลง ประชาชนต้องดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับกับสภาพความเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะกลุ่มของผู้สูงอายุ นับเป็นวัยที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพได้ง่าย การป้องกันและดูแลสุขภาพในช่วงหน้าหนาว จึงต้องสร้างความอบอุ่นร่างกายให้กับตนเอง โดยการใส่เสื้อผ้าอย่างมิดชิด หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในเวลากลางคืน แต่หากจำเป็นต้องอาบก็ให้บริหารร่างกายโดยการยืดเส้นยืดสายก่อน เพราะน้ำเย็นจะทำให้หลอดเลือดมีการขยายตัวเล็กน้อย
นอกจากการดูแลเบื้องต้นแล้วผู้สูงอายุควรมีการดูแล ป้องกันโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดแล้วดูแลสุขภาพไม่ดี อาจจะลุกลามจนนำไปสู่โรคปอดบวมได้ นอกจากนี้โรคผู้สูงอายุที่พบบ่อยมากในช่วงหน้าหนาว คือ โรคที่เกี่ยวข้องกับโรคผิวหนัง เพราะปกติแล้วผู้สูงอายุมีผิวหนังบอบบางและแห้งเมื่อเจออากาศเย็น และความชื้นที่ลดลงจนทำให้เกิดอาการคัน เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนังได้ง่าย หากมีการเกาอย่างแรงแต่สามารถป้องกันได้โดยการทาครีมโลชั่น หรือน้ำมันมะกอก เพื่อสร้างความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับผู้สูงอายุคือการออกกำลังกาย เพราะสภาพอากาศที่หนาวจะทำให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายได้นานกว่าเดิม เพราะไม่เหนื่อยเท่ากับอากาศร้อน ซึ่งสามารถเลือกออกกำลังกายง่ายๆ ได้เช่น การเดิน หรือวิ่งช้าๆ การขี่จักรยาน การรำมวยจีนเป็นต้น
“ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้สูงอายุต้องให้ความสำคัญอีกอย่าง คือ การบริโภคอาหาร เพราะความเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไขเร็วขึ้น ก่อนการบริโภคควรนำอาหารอุ่นให้ร้อน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกายอีกทางหนึ่ง หากผู้สูงอายุปฏิบัติได้ตามขั้นตอนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้สุขภาพดีช่วงหน้าหนาวเท่านั้น แต่จะส่งผลดีต่อสุขภาพระยะยาวอีกด้วย” นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว