“ธงทอง”มั่นใจสางปัญหาองค์การค้าฯ แนะปรับแก้กฎระเบียบที่ทำให้เสียเปรียบเอกชน ใช้วิธีเออรี่ลีไทร์แทนการปลดพนักงาน ขณะที่สหภาพแรงงานองค์การค้าฯ หวังช่วยอุดช่องโหว่ทุจริต กอบโกยประโยชน์มหาศาล เสนอขอแยกไปอยู่กับสำนักงานปลัด ศธ. หรือ สพฐ.
นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(ส.ก.ส.ค.)ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางสหภาพแรงงานองค์การค้าคุรุสภาฯ ได้มาพบเพื่อเสนอปัญหา ซึ่งองค์การค้ามีหลายมิติที่จะต้องแก้ไข อาศัยตนเพียงลำพังคงไม่ได้ นอกจากนี้ทางสหภาพแรงงานฯยังได้พูดถึงการบริหารงานขององค์การค้าฯ ที่ทำงานในลักษณะของคณะกรรมการโดยมีสัดส่วนของกรรมการไม่สมดุลกัน โดยกรรมการโดยตำแหน่งมีน้อยกว่ากรรมการในสายงานอื่น ซึ่งประเด็นดังกล่าวคงต้องนำไปพิจารณารวมกันประเด็นอื่น ๆ ในที่ประชุมคณะกรรมการส.ก.ส.ค.ต่อไป
นายธงทอง กล่าวอีกว่า จากการประชุมบอร์ด ส.ก.ส.ค.เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีความเห็นพร้องกันว่าสิ่งที่จะต้องทำในขณะนี้คือ 1.ลดรายจ่ายและต้องเพิ่มรายได้ของตัวเอง 2.เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อยืดเวลาผ่อนชำระหนี้ และ3.ปรับปรุงการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหากกฎระเบียบใดที่ทำให้เสียเปรียบต่อการดำเนินธุรกิจก็จำเป็นต้องปรับแก้ไข เช่น การกำหนดให้ส่วนลดทางการค้ากับร้านค้าที่นำสินค้าไปวางจำหน่ายเพียงแค่ 25% ขณะที่เอกชนให้ส่วนลดกับร้านค้าถึง 30% ส่วนการปรับลดพนักงานนั้น หากไม่รับพนักงานเพิ่มก็ถือว่าลดได้ส่วนหนึ่งแล้ว เพราะขณะนี้พนักงานก็เริ่มเกษียณกันมากแล้ว หากจะใช้วิธีการเกษียณอายุก่อนกำหนดโดยสมัครใจ และจ่ายชดเชยให้ก็เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการลดพนักงานเพียงอย่างเดียว
ด้านนายอนันต์ นุชเทศ ประธานสหภาพแรงงานองค์การค้าฯ กล่าวว่า ปัญหาขององค์การค้าเกิดจากปัญหาใหญ่ 2 ประการ คือ ปัญหา เรื่องของกฎหมาย และโครงสร้าง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการ ในฐานะที่นายธงทองเป็นนักกฎหมาย จึงอยากให้ดูว่าประเด็นไหนที่ไม่เอื้ออำนวยและเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการทำงาน หรือการบริหารองค์การค้าฯ และอยากให้นายธงทองอุดช่องโหว่ที่ทำให้คนที่ไม่หวังดีมากอบโกยผลประโยชน์ เช่น เรื่องพิมพ์ตำราเถื่อน หนังสือถูกขโมย การทุจริตการขายหนังสือ เป็นต้น ซึ่งสหภาพแรงงานฯ เชื่อนายธงทอง และคณะกรรมการทั้ง 5 องค์กรหลัก จะแก้ปัญหาขององค์การค้าฯ ได้ และหากเป็นไปได้ก็อยากให้องค์การค้าเป็นหน่วยงานทางการศึกษาอย่างแท้จริง อยู่ภายใต้สำนักงานปลัด ศธ. หรือให้ขึ้นกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ที่ไม่ใช่ ส.ก.ส.ค.ทางสหภาพก็จะยินดีอย่างมาก แต่หากจะให้อยู่ภายใต้ ส.ก.ส.ค.ก็ควรจะปรับปรุง พ.ร.บ.สภาครู 2546 ให้อำนวยต่อการบริหารจัดการองค์กรที่ดีกว่านี้ เพราะตั้งแต่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวมา 5 ปีก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเลย
