พม.โวยตำรวจไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชน ระบุ 4 ปัญหาสาหัส ยาเสพติด-เด็กติดเกม-เซ็กซ์ละอ่อน-มั่วสุมในหอพัก เผยแนวทางการแก้ ขุดของเก่ากิน เล็งจัดโซนนิ่งรอบสถานศึกษา “อุดมเดช” รับอาจเป็นแนวแก้แบบรู้สึกช้าไปหน่อย
วันนี้ (6 พ.ย.) เวลา 09.15 น. ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “รวมพลังเยาวชนแก้ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบัน” โดยมีตัวแทนเยาวชนจากเครือข่างองค์กรเอกชน สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย อีกทั้งยังมีเยาวชนจากสถานศึกษาในกรุงเทพ และปริมณฑล จำนวนกว่า 150 คน เข้าประชุมด้วย
โดยนายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า อยากให้ตำรวจจัดสรรบุคลากรเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเยาวชน ซึ่งสิ่งที่สังคมคาดหวังให้รัฐบาลแก้ไขคือ การป้องกันผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ทั้งในเรื่องของปัญหายาเสพติด ปัญหาเด็กติดเกม ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ปัญหาการมั่วสุมในหอพัก
ทั้งนี้ ตนมองว่าปัญหาการมั่วสุมของเยาวชนภายในหอพักเป็นปัญหาสำคัญอันเป็นต้นตอใหญ่ของปัญหาอื่นๆ พม.มีหน้าที่ต้องเข้าไปสอดส่องดูแลพร้อมกับหน่วยงานอื่นๆ ของภาครัฐ เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่บั่นทอนอนาคตของชาติ ที่จะเกิดปัญหาอื่นตามมา เนื่องจากเยาวชนมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่มีใครบังคับ จึงมีความเสี่ยงต่อปัญหารอบด้าน
“สิ่งที่ พม.อยากทำ ซึ่งอาจจะดูเป็นเรื่องเก่าหรือรู้สึกช้าไป คือ การจัดโซนนิ่งรอบสถานศึกษา ทั้งหอพัก ร้านเกม สถานบันเทิง เพื่อสกัดการเกิดขึ้นใหม่ของปัญหา โดยจะไม่เข้าไปห้าม แต่จะเป็นไปในเชิงสกัดกั้นไม่ให้เกิดเพิ่มขึ้น และขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง เห็นประโยชน์ของสังคมและเห็นแก่เยาวชนเป็นหลัก ด้วยการสอดส่องดูแล ไม่เปิดเกินเวลา กำหนดอายุเด็กที่จะเข้าใช้บริการ โดยอาจรวมไปถึงการกำหนดการลงทุน คือเมื่อถึงระยะเวลาคืนของสถานประกอบการนั้นๆ ก็อาจมีข้อเรียกร้องให้หยุดกิจการ โดยกระบวนการต่างๆ เหล่านี้จะเป็นการหาทางออกเพื่ออยู่ได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
สำหรับกระบวนการการรับฟังปัญหาที่จัดในครั้งนี้จะมีการดำเนินการต่อไปในทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อ พม.จะได้เข้าถึงปัญหาเยาวชนและแก้ปัญหาได้ตรงจุด”
ด้านนายกิตติ สมานไทย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นกับเด็กมีแนวโน้นสูงขึ้น ปัญหาที่พบมามี 4 ปัญหาหลัก คือ ปัญหายาเสพติด ซึ่งผู้กระทำผิดมีอายุน้อยลง ตั้งแต่ 15 ปีขึ้น ส่วนความผิดเกี่ยวกับสารเสพติด 3 อันดับแรก ได้แก่ แอมเฟตามีน สารระเหย และกัญชา ต่อมาคือ ปัญหาการติดเกม พบว่าเยาวชนใช้อินเทอร์เน็ตไปกับการบันเทิงมากกว่าที่จะเป็นการใช้เพื่อการศึกษา โดยเฉพาะเด็กเล็ก 10-14 ปี ชอบเล่นเกมออนไลน์มากที่สุด จนเกิดอาการเก็บกด อารมณ์ฉุนเฉียว พฤติกรรมก้าวร้าว ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ดังที่เป็นข่าว
อีกทั้ง ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร พบว่า ค่านิยมเด็กไทยนิยมมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย คือต่ำว่า 20 ปี โดยไม่ได้วางแผนหรือเตรียมตัว ส่งผลให้เกิดปัญหาทำแท้ง และปัญหาการติดเชื้อเอดส์ในวัยรุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น
ปัญหาสุดท้าย ผอ.สท.ระบุว่า คือ ปัญหาการมั่วสุมในหอพัก เป็นปัญหาที่มากขึ้นและพบมากขึ้นทุกวัน พบว่าเด็กและเยาวชนบางส่วนประพฤติตนไม่เหมาะสม มีการมั่วสุมเล่นการพนัน ติดยาเสพติด จับคู่อยู่ร่วมกันหญิงชาย