ผอ.ฝ่ายการเกษตร ดอยตุง เผยจัดสวนโดยรอบพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คืบไปกว่า 70% มั่นใจสวนเสร็จสมบูรณ์ทันวันพระราชพิธีฯ แน่นอน วันนี้นำดอกไม้จากดอยตุงลงประดับพระเมรุโดยรอบอีก 12,000 ต้น เผยพบปัญหาจากสภาพอากาศแปรปรวนฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดเชื้อรากับไม้ดอกที่ประดับตกแต่ง
วันนี้(5 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น. ผศ.ประวิทย์ บุญมี ผู้อำนวยการฝ่ายการเกษตร สำนักงานประสานงานโครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งรับผิดชอบจัดสวนโดยรอบพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ในวันนี้ (5 พ.ย.) ได้นำไม้ดอกไม้ประดับจากดอยตุงมาประดับตกแต่งบริเวณพระเมรุอีกประมาณ 12,000 ต้น ประกอบด้วย ดอกฟอร์เกตมีนอต 4,500 ต้น ดอกสเนปดรากอน 1,000 ต้น ดอกเฟตทูเนีย 5,000 ต้น ดอกลูบีเลีย บลูมูน 1,920 ต้น ดอกอิมเพเทียมแทงโก 1,000 ต้น
ผศ.ประวิทย์ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ประสบขณะนี้คือสภาพอากาศของกรุงเทพฯ ที่มีความแปรปรวนอย่างมาก ในช่วงสายถึงบ่ายอากาศและร้อนจัดและแดดแรง ขณะเดียวกันก็มีฝนตกอย่างหนักต่อเนื่องในช่วงเย็น ทำให้ไม้ดอกเกิดเชื้อราขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ถอนต้นไม้ที่มีเชื้อราและทำลายทิ้ง แล้วนำต้นใหม่มาปลูกและทำการฉีดยาป้องกันเชื้อรา โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลสวนบริเวณพระเมรุอย่างใกล้ชิดกว่า 50 คน ซึ่งระหว่างนี้จะต้องดูแลเพื่อให้ไม้ดอกต่างๆ บานตามกำหนดวันที่ 15 พ.ย. เพื่อให้วันดังกล่าวสวยงามที่สุด ถึงขณะนี้การตกแต่งสวนโดยรอบพระเมรุแล้วเสร็จไปกว่า 70% และมั่นใจว่าจะจัดสวนได้เสร็จสมบูรณ์ทันวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างแน่นอน
"หลังจากเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมความงามบริเวณพระเมรุประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะเปิดโอกาสให้ประชาชนนำดอกไม้ที่ประดับโดยรอบพระเมรุกลับบ้านเพื่อเป็นสิริมงคลต่อไป" ผศ.ประวิทย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันศุกร์ที่ 7 พ.ย.นี้ กระทรวงวัฒนธรรมจะนำคณะทูตานุทูต และผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมพระเมรุ และอาคารประกอบพระเมรุ ในเวลาประมาณ 16.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ได้เดินทางมายังพระเมรุท้องสนามหลวง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย และการเตรียมเก้าอี้สำหรับจัดวางในอาคารประกอบพรเมรุต่างๆ ด้วย
วันนี้(5 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น. ผศ.ประวิทย์ บุญมี ผู้อำนวยการฝ่ายการเกษตร สำนักงานประสานงานโครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งรับผิดชอบจัดสวนโดยรอบพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ในวันนี้ (5 พ.ย.) ได้นำไม้ดอกไม้ประดับจากดอยตุงมาประดับตกแต่งบริเวณพระเมรุอีกประมาณ 12,000 ต้น ประกอบด้วย ดอกฟอร์เกตมีนอต 4,500 ต้น ดอกสเนปดรากอน 1,000 ต้น ดอกเฟตทูเนีย 5,000 ต้น ดอกลูบีเลีย บลูมูน 1,920 ต้น ดอกอิมเพเทียมแทงโก 1,000 ต้น
ผศ.ประวิทย์ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ประสบขณะนี้คือสภาพอากาศของกรุงเทพฯ ที่มีความแปรปรวนอย่างมาก ในช่วงสายถึงบ่ายอากาศและร้อนจัดและแดดแรง ขณะเดียวกันก็มีฝนตกอย่างหนักต่อเนื่องในช่วงเย็น ทำให้ไม้ดอกเกิดเชื้อราขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ถอนต้นไม้ที่มีเชื้อราและทำลายทิ้ง แล้วนำต้นใหม่มาปลูกและทำการฉีดยาป้องกันเชื้อรา โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลสวนบริเวณพระเมรุอย่างใกล้ชิดกว่า 50 คน ซึ่งระหว่างนี้จะต้องดูแลเพื่อให้ไม้ดอกต่างๆ บานตามกำหนดวันที่ 15 พ.ย. เพื่อให้วันดังกล่าวสวยงามที่สุด ถึงขณะนี้การตกแต่งสวนโดยรอบพระเมรุแล้วเสร็จไปกว่า 70% และมั่นใจว่าจะจัดสวนได้เสร็จสมบูรณ์ทันวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างแน่นอน
"หลังจากเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมความงามบริเวณพระเมรุประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะเปิดโอกาสให้ประชาชนนำดอกไม้ที่ประดับโดยรอบพระเมรุกลับบ้านเพื่อเป็นสิริมงคลต่อไป" ผศ.ประวิทย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันศุกร์ที่ 7 พ.ย.นี้ กระทรวงวัฒนธรรมจะนำคณะทูตานุทูต และผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมพระเมรุ และอาคารประกอบพระเมรุ ในเวลาประมาณ 16.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ได้เดินทางมายังพระเมรุท้องสนามหลวง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย และการเตรียมเก้าอี้สำหรับจัดวางในอาคารประกอบพรเมรุต่างๆ ด้วย