ทหารม้าซ้อมริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ท่ามกลางประชาชนร่วมชมคับคั่ง 35 สำนักข่าวทั่วโลกแจ้งความจำนงติดตามเผยแพร่งานพระราชพิธี ทึ่ง! ภูมิปัญญาไทย ขณะที่ กทม.ฉีดสารไล่นกพิราบสนามหลวงต่อเนื่อง ยันสารที่ใช้ฉีดไม่เป็นอันตรายกับคนและนก
เมื่อเวลา 15.40 น. พล.ต.วิลาศ อรุณศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นำกำลังพลฝึกซ้อมการจัดขบวนทหารม้ากองเกียรติยศ ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่ 6 ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อการอัญเชิญพระสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปบรรจุ ณ อนุสรณ์สถานรังสีวัฒนา วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ใช้เส้นทางจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ออกประตูวิเศษไชยศรี เข้าถนนหน้าพระลาน ถนนสนามชัย ถนนกัลยาณมิตร ถนนอัษฎางค์ ก่อนเข้าสู่ถนนราชบพิธ โดยมีขบวนม้ารักษาพระองค์เข้าร่วมพิธีทั้งหมด 77 ม้า ใช้กำลังพล 208 นาย ริ้วขบวนมีกองทหารม้าอิสริยยศนำ จำนวน 44 ม้า ตามด้วยรถยนต์พระที่นั่งของพระบรมวงศานุวงศ์ ปิดท้ายริ้วขบวนด้วยกองทหารม้าอิสริยยศ อีก 33 ม้า
ทั้งนี้ ในการซ้อมครั้งนี้ เป็นการซ้อมแยกจากริ้วขบวนอื่นๆ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจชมและเก็บภาพเป็นที่ระลึกอย่างคับคั่ง และจะเข้าร่วมในพระราชพิธีฯ วันสุดท้าย คือ วันที่ 19 พฤศจิกายน จากนี้ไปจะมีการซ้อมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 4 พฤศจิกายน
**35 สำนักข่าวทั่วโลกร่วมทำข่าวพระราชพิธี
น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานออกแบบจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพิธี ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวถึงความคืบหน้า ว่า จากที่ลานพระเมรุมีสภาพน้ำขัง ขณะนี้ได้ปรับพื้นลานพระเมรุให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) สำนักประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ ได้นำสื่อมวลชนต่างประเทศจำนวนกว่า 30 คน เข้าชมพระเมรุ และได้บรรยายการสร้างพระเมรุให้กับสื่อต่างประเทศฟัง ซึ่งให้ความสนใจมาก ซักถามถึงการสร้างพระเมรุตามโบราณราชประเพณีของไทย ว่า มีความเป็นมาอย่างไร ก็ได้อธิบายเป็นคติความเชื่อไตรภูมิพระร่วง เมื่อเจ้านายสิ้นพระชนม์จึงต้องมีการสร้างพระเมรุขึ้นมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อถวายเพลิงพระศพเจ้านายส่งเสด็จสรวงสวรรค์
“สื่อต่างประเทศยังได้ถามจิตกาธานที่ตั้งวางพระโกศ เมื่อถวายเพลิงพระศพแล้วไม้จิตกาธานไม่ไหม้เพราะเหตุใด ก็ได้ตอบว่าใช้หยวกกล้วยห่อหุ้มจิตกาธานทำให้ไฟเผาพระศพเป็นเวลาร่วม 4 ชั่วโมง ไม่สามารถไหม้จิตกาธานได้ เพราะใช้หยวกกล้วยสดๆ ที่อมความชื้นของน้ำไว้หล่อเลี้ยง ทำให้สื่อต่างชาติทึ่งมาก และบอกกับผมว่านี่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย จะได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไปเผยแพร่ให้ประชาชนในประเทศของเขาและทั่วโลกได้รับรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมราชประเพณีของไทย” น.อ.อาวุธ กล่าว
ด้าน นางลดาวัลย์ บัวเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้สื่อมวลชนต่างประเทศได้แจ้งความจำนงเข้ามาทำข่าวงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จำนวนกว่า 100 คน 35 สำนักข่าว อาทิ รอยเตอร์ เอพี เอเอฟพี เอบีซี บีบีซี ไทม์แมกกาซีน และสำนักข่าวจากรัสเซีย ญี่ปุ่น สเปน ฝรั่งเศส จีน อินเดีย สิงคโปร์ เป็นต้น รวมสื่อมวลชนของไทยอีก 600 คน รวมแล้ว 700 คน ซึ่งในวันนี้ได้พาสื่อต่างประเทศให้ความรู้เรื่องราชรถและพระเมรุ และจุดที่จะถ่ายภาพซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ และวันพระราชพิธีฯ 15 พฤศจิกายน
**กทม.ฉีดไล่นกพิราบสนามหลวง
นางวันทนีย์ วัฒนะ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าการฉีดพ่นสารไล่นกพิราบที่ท้องสนามหลวง เพื่อเตรียมการสำหรับงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ กทม.เข้าฉีดพ่นสารไล่นกพิราบรอบท้องสนามหลวงตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา วันละ 2 ช่วงเวลาต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 3 แล้วนั้น ซึ่งจากการลงตรวจสอบในพื้นที่นกพิราบเริ่มลดลง โดยจะต้องฉีดพ่นสารดังกล่าวต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีนกพิราบบริเวณดังกล่าวมากถึง 3,000 ตัว โดยกทม.จะดำเนินการประเมินประสิทธิภาพอีกครั้ง ทั้งนี้ ยืนยันว่า สารดังกล่าวเป็นสารสกัดจากธรรมชาติจากองุ่น จึงไม่เป็นอันตรายต่อคนและนก แต่จะส่งผลให้นกเกิดความระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจเท่านั้น และหนีไปหาแหล่งที่อยู่ใหม่ ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือผู้ค้าและประชาชนงดให้อาหารนกในบริเวณนี้ด้วย
เมื่อเวลา 15.40 น. พล.ต.วิลาศ อรุณศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นำกำลังพลฝึกซ้อมการจัดขบวนทหารม้ากองเกียรติยศ ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่ 6 ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อการอัญเชิญพระสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปบรรจุ ณ อนุสรณ์สถานรังสีวัฒนา วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ใช้เส้นทางจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ออกประตูวิเศษไชยศรี เข้าถนนหน้าพระลาน ถนนสนามชัย ถนนกัลยาณมิตร ถนนอัษฎางค์ ก่อนเข้าสู่ถนนราชบพิธ โดยมีขบวนม้ารักษาพระองค์เข้าร่วมพิธีทั้งหมด 77 ม้า ใช้กำลังพล 208 นาย ริ้วขบวนมีกองทหารม้าอิสริยยศนำ จำนวน 44 ม้า ตามด้วยรถยนต์พระที่นั่งของพระบรมวงศานุวงศ์ ปิดท้ายริ้วขบวนด้วยกองทหารม้าอิสริยยศ อีก 33 ม้า
ทั้งนี้ ในการซ้อมครั้งนี้ เป็นการซ้อมแยกจากริ้วขบวนอื่นๆ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจชมและเก็บภาพเป็นที่ระลึกอย่างคับคั่ง และจะเข้าร่วมในพระราชพิธีฯ วันสุดท้าย คือ วันที่ 19 พฤศจิกายน จากนี้ไปจะมีการซ้อมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 4 พฤศจิกายน
**35 สำนักข่าวทั่วโลกร่วมทำข่าวพระราชพิธี
น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานออกแบบจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพิธี ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวถึงความคืบหน้า ว่า จากที่ลานพระเมรุมีสภาพน้ำขัง ขณะนี้ได้ปรับพื้นลานพระเมรุให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) สำนักประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ ได้นำสื่อมวลชนต่างประเทศจำนวนกว่า 30 คน เข้าชมพระเมรุ และได้บรรยายการสร้างพระเมรุให้กับสื่อต่างประเทศฟัง ซึ่งให้ความสนใจมาก ซักถามถึงการสร้างพระเมรุตามโบราณราชประเพณีของไทย ว่า มีความเป็นมาอย่างไร ก็ได้อธิบายเป็นคติความเชื่อไตรภูมิพระร่วง เมื่อเจ้านายสิ้นพระชนม์จึงต้องมีการสร้างพระเมรุขึ้นมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อถวายเพลิงพระศพเจ้านายส่งเสด็จสรวงสวรรค์
“สื่อต่างประเทศยังได้ถามจิตกาธานที่ตั้งวางพระโกศ เมื่อถวายเพลิงพระศพแล้วไม้จิตกาธานไม่ไหม้เพราะเหตุใด ก็ได้ตอบว่าใช้หยวกกล้วยห่อหุ้มจิตกาธานทำให้ไฟเผาพระศพเป็นเวลาร่วม 4 ชั่วโมง ไม่สามารถไหม้จิตกาธานได้ เพราะใช้หยวกกล้วยสดๆ ที่อมความชื้นของน้ำไว้หล่อเลี้ยง ทำให้สื่อต่างชาติทึ่งมาก และบอกกับผมว่านี่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย จะได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไปเผยแพร่ให้ประชาชนในประเทศของเขาและทั่วโลกได้รับรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมราชประเพณีของไทย” น.อ.อาวุธ กล่าว
ด้าน นางลดาวัลย์ บัวเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้สื่อมวลชนต่างประเทศได้แจ้งความจำนงเข้ามาทำข่าวงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จำนวนกว่า 100 คน 35 สำนักข่าว อาทิ รอยเตอร์ เอพี เอเอฟพี เอบีซี บีบีซี ไทม์แมกกาซีน และสำนักข่าวจากรัสเซีย ญี่ปุ่น สเปน ฝรั่งเศส จีน อินเดีย สิงคโปร์ เป็นต้น รวมสื่อมวลชนของไทยอีก 600 คน รวมแล้ว 700 คน ซึ่งในวันนี้ได้พาสื่อต่างประเทศให้ความรู้เรื่องราชรถและพระเมรุ และจุดที่จะถ่ายภาพซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ และวันพระราชพิธีฯ 15 พฤศจิกายน
**กทม.ฉีดไล่นกพิราบสนามหลวง
นางวันทนีย์ วัฒนะ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าการฉีดพ่นสารไล่นกพิราบที่ท้องสนามหลวง เพื่อเตรียมการสำหรับงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ กทม.เข้าฉีดพ่นสารไล่นกพิราบรอบท้องสนามหลวงตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา วันละ 2 ช่วงเวลาต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 3 แล้วนั้น ซึ่งจากการลงตรวจสอบในพื้นที่นกพิราบเริ่มลดลง โดยจะต้องฉีดพ่นสารดังกล่าวต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีนกพิราบบริเวณดังกล่าวมากถึง 3,000 ตัว โดยกทม.จะดำเนินการประเมินประสิทธิภาพอีกครั้ง ทั้งนี้ ยืนยันว่า สารดังกล่าวเป็นสารสกัดจากธรรมชาติจากองุ่น จึงไม่เป็นอันตรายต่อคนและนก แต่จะส่งผลให้นกเกิดความระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจเท่านั้น และหนีไปหาแหล่งที่อยู่ใหม่ ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือผู้ค้าและประชาชนงดให้อาหารนกในบริเวณนี้ด้วย
