ผอ.ร.ร.โพลีเทคนิคฯ อุ้มครอบครัว “น้องโอ” เต็มที่ ช่วยค่ารักษาพยาบาล 1 แสนบาท ให้พี่น้องเรียนฟรีจนจบและรับเข้าทำงาน สั่งตั้งกรรมการสอบสวนรุ่นพี่ทุกคน หากพบผิดบทโทษตั้งแต่ทำทัณฑ์บนถึงให้ออก
นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนโพลีเทคนิคพณิชย์กรุงเทพ เปิดแถลงข่าวกรณีนายนิโรจน์ศักดิ์ อินทาโชติ หรือ น้องโอ นักศึกษา ปวช.ปี 1 แผนกช่างไฟฟ้า ของโรงเรียน ถูกนักศึกษารุ่นพี่ จับทิ้งดิ่งในกิจกรรมรับน้องที่หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.จนสมองบวม อาการโคม่า ว่า ทางโรงเรียนได้ประชุมคณะกรรมการเพื่อหารือเรื่องนี้ และได้ข้อสรุปว่า โรงเรียนจะดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด โดยในวันนี้ (28 ต.ค.) ได้มอบเงินให้ครอบครัวน้องโอจำนวน 100,000 บาท เพื่อให้นำไปชำระค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งแรกจำนวน 86,000 บาท ที่เหลืออีก 14,000 บาท ให้เก็บเป็นค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ โรงเรียนจะดูแลค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่บิดามารดาน้องโอต้องใช้จ่ายระหว่างมาพักที่ จ.เพชรบุรี เพื่อดูแลน้องโอด้วย
“ครอบครับอินทาโชติให้ความไว้วางใจส่งลูก 3 คนเข้าเรียนที่นี่ ดังนั้น ความสัมพันธ์จึงไม่ใช่ครูและนักเรียน แต่เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทางโรงเรียนให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวน้องโอ โดยจะรับอุปการะพี่และน้องของน้องโอให้เรียนจนจบ เมื่อเรียนจบแล้วก็จะรับเข้าทำงานที่โรงเรียนด้วย นอกจากนั้น ทางโรงเรียนยินดีรับพ่อ แม่น้องโอมาเป็นเจ้าหน้าที่หรือขายสินค้าภายในโรงเรียนด้วย”
นายดวงฤทธิ์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนนักเรียนที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมทุกคน โดยเฉพาะรุ่นพี่ปี 3 จำนวน 13 คน ที่ยังไม่ยอมมารายงานตัวที่โรงเรียน แต่ได้ให้ทางอาจารย์ไปตามตัวถึงที่บ้านแล้ว ถ้าพบว่า มีความผิดจะมีบทลงโทษตั้งแต่ทำทันฑ์บน พักการเรียน และให้ออก ส่วนที่ รมว.ศธ.ต้องการให้ตรวจสอบประวัติรุ่นพี่ที่ก่อเหตุนั้น ทางโรงเรียนได้เชิญอาจารย์ประจำชั้นมาพูดคุย เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า ศิษย์เก่าที่ก่อเหตุนั้น ช่วงที่เรียนอยู่มีพฤติกรรมปกติ ออกจะเป็นสาวห้าวบ้าง แต่ก็เป็นที่รักใคร่ในหมู่รุ่นพี่รุ่นน้องแต่เมื่อเหล้าเข้าปากเมื่อใดนิสัยจะเปลี่ยนไปทันที
ด้านนายสมเกียรติ กิจพาณิชย์ รอง ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติระหว่างเรียนของน้องบิวพบว่า เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน เรียนดี และไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวแต่อย่างใด แต่หลังจากที่เรียนจบแล้วไปเรียนต่อที่อื่น พฤติกรรมก็ก้าวร้าวขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนกำลังสอบสวนนักเรียนที่ไปร่วมกิจกรรมทุกคนทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง และจะนำข้อมูลที่สอบสวนเพิ่มเติมได้ตรงนี้ร่วมทั้งรายชื่อนักเรียนที่ไปร่วมกิจกรรมทั้งหมดส่งมอบให้ ศธ.และทางตำรวจในวันพรุ่งนี้
นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนโพลีเทคนิคพณิชย์กรุงเทพ เปิดแถลงข่าวกรณีนายนิโรจน์ศักดิ์ อินทาโชติ หรือ น้องโอ นักศึกษา ปวช.ปี 1 แผนกช่างไฟฟ้า ของโรงเรียน ถูกนักศึกษารุ่นพี่ จับทิ้งดิ่งในกิจกรรมรับน้องที่หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.จนสมองบวม อาการโคม่า ว่า ทางโรงเรียนได้ประชุมคณะกรรมการเพื่อหารือเรื่องนี้ และได้ข้อสรุปว่า โรงเรียนจะดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด โดยในวันนี้ (28 ต.ค.) ได้มอบเงินให้ครอบครัวน้องโอจำนวน 100,000 บาท เพื่อให้นำไปชำระค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งแรกจำนวน 86,000 บาท ที่เหลืออีก 14,000 บาท ให้เก็บเป็นค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ โรงเรียนจะดูแลค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่บิดามารดาน้องโอต้องใช้จ่ายระหว่างมาพักที่ จ.เพชรบุรี เพื่อดูแลน้องโอด้วย
“ครอบครับอินทาโชติให้ความไว้วางใจส่งลูก 3 คนเข้าเรียนที่นี่ ดังนั้น ความสัมพันธ์จึงไม่ใช่ครูและนักเรียน แต่เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทางโรงเรียนให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวน้องโอ โดยจะรับอุปการะพี่และน้องของน้องโอให้เรียนจนจบ เมื่อเรียนจบแล้วก็จะรับเข้าทำงานที่โรงเรียนด้วย นอกจากนั้น ทางโรงเรียนยินดีรับพ่อ แม่น้องโอมาเป็นเจ้าหน้าที่หรือขายสินค้าภายในโรงเรียนด้วย”
นายดวงฤทธิ์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนนักเรียนที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมทุกคน โดยเฉพาะรุ่นพี่ปี 3 จำนวน 13 คน ที่ยังไม่ยอมมารายงานตัวที่โรงเรียน แต่ได้ให้ทางอาจารย์ไปตามตัวถึงที่บ้านแล้ว ถ้าพบว่า มีความผิดจะมีบทลงโทษตั้งแต่ทำทันฑ์บน พักการเรียน และให้ออก ส่วนที่ รมว.ศธ.ต้องการให้ตรวจสอบประวัติรุ่นพี่ที่ก่อเหตุนั้น ทางโรงเรียนได้เชิญอาจารย์ประจำชั้นมาพูดคุย เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า ศิษย์เก่าที่ก่อเหตุนั้น ช่วงที่เรียนอยู่มีพฤติกรรมปกติ ออกจะเป็นสาวห้าวบ้าง แต่ก็เป็นที่รักใคร่ในหมู่รุ่นพี่รุ่นน้องแต่เมื่อเหล้าเข้าปากเมื่อใดนิสัยจะเปลี่ยนไปทันที
ด้านนายสมเกียรติ กิจพาณิชย์ รอง ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติระหว่างเรียนของน้องบิวพบว่า เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน เรียนดี และไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวแต่อย่างใด แต่หลังจากที่เรียนจบแล้วไปเรียนต่อที่อื่น พฤติกรรมก็ก้าวร้าวขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนกำลังสอบสวนนักเรียนที่ไปร่วมกิจกรรมทุกคนทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง และจะนำข้อมูลที่สอบสวนเพิ่มเติมได้ตรงนี้ร่วมทั้งรายชื่อนักเรียนที่ไปร่วมกิจกรรมทั้งหมดส่งมอบให้ ศธ.และทางตำรวจในวันพรุ่งนี้
