xs
xsm
sm
md
lg

“อภิรักษ์” เล็งแก้ไข พ.ร.บ.กทม.ใช้เวลายกร่าง 6 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.
กทม.เตรียมตั้ง ส.ส.ร.แก้ไข พ.ร.บ.บริหารราชการกทม.ปี 2528 คาดใช้เวลายกร่าง 6 เดือน ยันแก้กฎหมาย กทม.เพื่อประโยชน์ของประชาชน เชื่อรัฐบาลจะไม่ผูกขาดสามารถผ่านสภาได้ พร้อมตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมขับเคลื่อนงาน กทม.และประชุมเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน 17 ต.ค.นี้ เพื่อร่วมเสนอแนะเชิงนโยบาย ส่วนการแก้ไขคอรัปชั่นจะดึงการมีส่วนร่วมจาก ขรก.กทม.แก้จุดอ่อนในเรื่องนี้

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารนัดแรก หลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะผู้บริหาร กทม.อย่างเป็นทางการ ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการทำงานในระยะยาว ซึ่งคณะผู้บริหารจะผลักดันให้มีการแก้ไข พระราชบัญญัติกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ทั้งนี้ มีข้อสรุปที่จะให้มีคณะกรรมการยกร่าง เหมือนสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการสรรหา เพื่อพิจารณาร่างที่เสนอโดยประชาชน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ตนเป็นผู้ว่าฯ กทม.ในสมัยแรกได้เคยตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการปฏิบัติราชการของ กทม.มี ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ เป็นประธาน ได้เคยศึกษาไว้แล้ว ซึ่ง กทม.จะนำร่างดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการแก้ไขกฎหมาย คาดว่า จะใช้เวลาในการยกร่างแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.ไปศึกษาหาข้อมูลเมืองต้นแบบทั่วโลก มาเปรียบเทียบว่า เมืองใดใกล้เคียงกับ กทม.มากที่สุด เพื่อนำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน เนื่องจากต้องยอมรับว่า การทำงานที่ผ่านมาในช่วง 4 ปีที่แล้ว มีปัญหาอุปสรรคและ กทม.ไม่มีอำนาจในการเข้าไปบริหารจัดการ เช่น ปัญหาจราจร ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การแก้กฎหมายดังกล่าวก็เพื่อให้สามารถพัฒนาเมืองและแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง โดยเอาผลลัพธ์เป็นตัวตั้ง

“ร่างดังกล่าวจะมาจากเครือข่ายภาคประชาชนและนักวิชาการ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคม ไม่ใช่กฎหมายถูกเสนอโดยผู้ว่าฯ กทม.ส่วนเรื่องการโอนหน่วยงานภายนอก อย่าง ไฟฟ้า ประปา ยืนยันว่า เป็นเพียงแนวคิดในกรอบกว้างๆ ก่อน ผมไม่อยากให้ตื่นตระหนก ไม่ใช่ว่า กทม.อยากรวบอำนาจมาทั้งหมด หรือโอน ขสมก.มาอยู่ในกำกับดูแล ไม่ใช่ agenda ที่มาจากพรรค ปชป.วิธีการได้มาไม่จำเป็นต้องโอนถ่ายมาทั้งหมดก็ได้ แต่คณะทำงานจะไปศึกษาว่าจะสามารถทำงานร่วมกันในด้านใดได้บ้าง” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้กฎหมายอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะรัฐบาลเป็นคนละพรรคกัน นายอภิรักษ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่เป็นรัฐบาลผูกขาด จะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะคนกรุงเทพฯ มีการคาดหวังที่อยากจะเห็น กทม.น่าอยู่ ซึ่งวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และร่างจาก ส.ส.ร.ที่เป็นร่างของประชาชนจะเป็นตัวพิสูจน์ให้เห็นถึงความชอบธรรม และตนเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องยอมรับในจุดนี้ด้วย

ต่อข้อถามว่า จะมีการแก้ไขกฎหมายให้มีการตรวจสอบผู้ว่าฯ กทม.ด้วยหรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนพร้อมให้ตรวจสอบอยู่แล้วในฐานะผู้ว่าฯ กทม.ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา ตนทำงานได้รับรู้ถึงปัญหาเป็นอย่างดี อยู่ใน กทม.มาก็รู้ว่าไม่ง่าย หากไม่พร้อมให้ตรวจสอบคงไม่มาสมัครให้วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง

นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนได้มอบหมายให้ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.ประชุมร่วมกับ ผอ.สำนัก และ ผอ.สำนักงานเขตต่างๆ ของ กทม.เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการดึงการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน พร้อมกับเรียงลำดับปัญหาในแต่ละพื้นที่ว่ามีอย่างไรบ้าง เช่น ปัญหาขยะล้น น้ำท่วมขังในซอย การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างโดยจะรวบรวมพร้อมกันทุกเขต จากนั้นคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่เขตจะได้เข้ามาตรวจสอบ ทั้งนี้ จะมีการกำหนดกรอบระยะเวลาแก้ไขให้เสร็จซึ่งจะเป็นการทำงานเชิงรุกโดยไม่ต้องรอให้ประชาชนร้องเรียนเข้ามา อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์นี้ กทม.ได้เชิญเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน 40 องค์กร นักวิชาการด้านต่างๆ จะมาร่วมประชุมเสนอแนะเชิงนโยบาย นอกจากนี้ จะจัดตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมซึ่งจะมีตัวแทนจากหลากหลายวิชาชีพ อาทิ แพทย์ พยาบาล สถาปนิก หอการค้า สภาอุตสหกรรม เป็นต้น เพื่อร่วมขับคเลื่อนนโยบายที่ตนได้ประกาศไว้ทั้ง 5 ด้าน อีกด้วย

นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการทำงานร่วมกับเพื่อนข้าราชการ กทม.นั้นจะมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) กองการเจ้าหน้าที่ จัดรับฟังความคิดเห็นของข้าราชการ กทม.ทั้งหมด เพื่อให้สามารถขับคเลื่อนงานให้มากขึ้น รวมถึงการสร้างขวัญกำลังใจที่ไม่ต้องกระทบกับงบประมาณของ กทม.โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอมาให้เร็วที่สุด ส่วนการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันใน กทม.นั้นก็จะดึงการมีส่วนร่วมจากเพื่อนข้าราชการ กทม.ทุกคนช่วยกัน เพราะ กทม.เป็นองค์กรที่อ่อนไหวในเรื่องนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น