“หมอสุเทพ” ยันไม่รักษาตำรวจ เป็นเรื่องส่วนตัว-รพ.จุฬาฯ เผยดูแลผู้ป่วยเต็มที่ทุกคน

รพ.จุฬาฯ แถลงเสียใจคนเข้าใจผิดไม่รักษาตำรวจ ยันรักษาหมด ด้าน หมอสุเทพ แกนนำกลุ่มหมอจุฬาฯ แจงออกแถลงการณ์เคลื่อนไหว เพราะสะเทือนใจกับเหตุการณ์ แค่ต้องการสื่อถึงตำรวจอย่าใช้ความรุนแรงต่อปชช.

วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีกลุ่มแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการงดตรวจรักษาผู้รับบริการที่เป็นตำรวจ คณะรัฐมนตรี ส.ส.และพรรคร่วมรัฐบาลใน ครม.ชุดปัจจุบัน

รศ.นพ.ประสงค์ ศิริวิริยะกุล รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ฝ่ายบริหาร รักษาการแทนคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ข่าวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟัง เพราะด้วยความเร่งรีบของทุกฝ่ายที่อยากแก้ปัญหา อาจทำให้มีความเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนไปบ้าง ขอยืนยันว่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานร่วมกับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และพร้อมให้บริการประชาชนทุกคนตามจริยธรรม จรรยาบรรณของวิชาชีพ โดยไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ ศาสนา ใด หรือมีความคิดเห็นทางการเมืองอย่างไร ก็ยืนยันที่จะรักษาและดูแลอย่างเต็มที่

“คนเรามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ความเข้าใจก็แตกต่างกันได้ ซึ่งเราเคารพความคิดเห็นส่วนบุคคล ผมเข้าใจและทราบดี และคณะไม่มีการลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น ผมเชื่อในคนของผมว่า มีความตั้งใจดี และไม่คิดจะปฏิเสธคนไข้จริงๆ เพราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเตือนสติบุคคลที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และเพียงเราคุยกันแบบพี่ๆ น้องๆ ก็เข้าใจกัน จุฬาฯเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความหลากหลายทางวิชาการ ดังนั้น หากความเห็นดังกล่าวไม่กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ขององค์กรก็สามารถแสดงความคิดเห็นใดได้ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินว่า นพ.สุเทพ อ้างว่า เป็นความเห็นของทั้งสถาบัน”รศ.นพ.ประสงค์ กล่าว

ด้าน รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาล กล่าวว่า โรงพยาบาล ยืนยันว่า ได้นำหลักของสภากาชาดไทยใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ คือ ยึดหลักตามความเป็นกลาง ไม่แบ่งฝักฝ่าย แต่จากข่าวที่ออกไปว่าแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ จะปฏิเสธการรักษาตำรวจ ฯลฯ นั้น ขอยืนยันว่า โรงพยาบาลจะให้การรักษาประชาชนทุกคน โดยเฉพาะพี่น้อง ญาติ ตำรวจอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องแบบแต่อย่างใด จึงขอทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งประเทศด้วย

รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลจุฬาฯได้ทำหนังสือชี้แจงถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เป็นลายลักษณ์อักษร ว่า ยืนยันในการดูแลให้การรักษาประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ และเชื่อว่า แพทย์จุฬาฯคงไม่มีท่านใดปฏิเสธการรักษาคนไข้แม้แต่รายเดียว ซึ่งกระแสข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้อาจเป็นความคลาดเคลื่อน

“เราเคารพในความคิด และทราบว่า แพทย์แต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกันไป แต่เราเชื่อว่าหากเราพูดคุยก็สามารถทำความเข้าใจปรับความคิดให้สามารถทำงานได้อย่างปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นคนของคณะแพทยศาสตร์ หรือโรงพยาบาลก็เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นคนของจุฬาลงกรณ์เหมือนกัน ยืนยันว่า ฝ่ายบริหารเคารพความคิดของบุคลากรทุกคน” รศ.นพ.ธีรพงศ์ กล่าว

รศ.นพ.สุเทพ กลชาญวิทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์แพทย์ แกนนำกลุ่มศัลยแพทย์ ที่เคลื่อนไหวปฏิเสธไม่ขอรับรักษาผู้ป่วยที่เป็นตำรวจ หรือนักการเมือง กล่าวว่า เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีความคลาดเคลื่อนว่า โรงพยาบาลจุฬาฯจะไม่รักษาผู้ป่วยที่เป็นตำรวจ ทำให้ประชาชนโกรธเคืองโรงพยาบาล ซึ่งตนเองมีส่วนรับผิดชอบแก้ไขกับสิ่งที่เกิดขึ้น

รศ.นพ.สุเทพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ต้องการสื่อความรู้สึกของแพทย์กลุ่มหนึ่งที่อยู่ในที่เกิดเหตุและเห็นประชาชนถูกยิง จนแขนขาขาด เป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างมาก จึงจำเป็นต้องแสดงจุดยืนให้เห็น เพื่อให้ตำรวจได้รู้สึกสำนึกและหยุดการทำร้ายประชาชน หากไม่ทำอะไรเลยก็จะยังมีคนเจ็บ ตายเพิ่มขึ้นอีก และอยากให้รัฐบาลและตำรวจเลิกใช้วิธีการรุนแรงดังกล่าวแต่กลับมีการใช้ความรุนแรงอีกครั้งในช่วงเย็น ทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงคิดว่าต้องดำเนินการมาตรการอะไรสักอย่างเพื่อแสดงจุดยืน

“ผมไม่ได้หวังร้าย หรือเกลียดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงแต่ต้องการสะท้อนความรู้สึกและกระตุ้นให้เห็นความสำคัญสิ่งเหล่านี้ จึงไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งเครื่องแบบมาให้ผมรักษา เพราะหมอทั้งหลายเมื่อเห็นเครื่องแบบก็จะรู้สึกไม่สบายใจ เพราะภาพติดตา คือ ตำรวจกระทำต่อประชาชนด้วยความโหดร้าย ซึ่งไม่ได้หมายความถึงการปฏิเสธการรักษา ซึ่งถ้าจะให้แพทย์สบายใจก็ไม่ควรสวมชุดตำรวจมา ทั้งนี้แพทย์ที่มีความคิดเห็นเช่นเดียวกันนี้เป็นเพียงแพทย์ส่วนเดียวเท่านั้น เพราะองค์กรก็มีความหลากหลายทางความคิดที่ต่างกันไป” รศ.นพ.สุเทพ กล่าว

รศ.นพ.สุเทพ กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลจุฬาฯ และสภากาชาดไทย แต่เป็นการตัดสินใจและดำเนินการโดยส่วนตัวเป็นสิทธิบุคคล แพทย์ที่มาร่วมแนวคิดนี้ ก็เป็นการตัดสินใจอิสระ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มศัลยแพทย์ และอายุรแพทย์ในกรุงเทพฯ มาร่วมแนวคิดแล้ว 10 กว่าคน และยังมีแพทย์จากจ.เชียงใหม่ มาร่วมเพิ่มอีก 34 คนแล้ว

พญ.วารุณี จินารัตน์ ผอ.รพ.ราชวิถี กล่าวว่า กล่าวว่า ในความเป็นแพทย์จะต้องดูแลทุกคนที่เป็นผู้ป่วย ไม่เลือกปฏิบัติในความเห็นส่วนตัว คิดว่า ต้องแยกระหว่างความคิดเห็นส่วนตัวกับงานออกจากกัน เพราะแม้แต่ในสงคราม แม้ว่าผู้บาดเจ็บจะเป็นศัตรู แพทย์ยังต้องให้การรักษาตามจรรยาบรรณแพทย์ อย่างไรก็ตาม แพทย์สามารถเข้าร่วมมีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ หากเป็นเวลาที่นอกเหนือจากเวลางานแล้ว แต่ในหน้าที่ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด