ผอ.รพ.รามาธิบดีระบุผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวมารักษาที่รพ.รามาธิบดีในช่วงเย็นตั้งแต่ 17.00 พบว่าผู้บาดเจ็บที่มีอาการหนักมี 4 ราย เผยสั่งการให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทุกแผนกรอรับสถานการณ์ตลอดทั้งคืน และเผยรายชื่อผู้บาดเจ็บช่วงเย็น ด้านศูนย์นเรนทรเผยยอดรวมผู้บาดเจ็บ 162 คน เสียชีวิต 1 คน
รศ.ธันย์ สุภัทรพันธ์ ผอ.รพ.รามาธิบดีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวมารักษาที่รพ.รามาธิบดีในช่วงเย็นตั้งแต่ 17.00 พบว่าผู้บาดเจ็บที่มีอาการหนักมี 4 รายด้วยกัน โดย1รายกระดูกต้นขาหัก คาดว่าจะเกิดจากรถชนขณะชุลมุน อีก 2 ราย แน่นหน้าอก ต้องรอสังเกตอาการ และ 1 ราย มีอาการระคายเคืองดวงตาอย่างรุนแรง ที่เหลือเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งบางคนได้รับการรักษาและทยอยกลับบ้านไปบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามก็ได้มีการประเมินสถานการณ์และติดตามอย่างใกล้ชิด โดยช่วงเช้าประกาศใช้แผน 111 และยกเลิกไปในช่วงบ่าย และประกาศใช้แผนนี้อีกครั้งตอน 17.00 น. เนื่องจากสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งโรงพยาบาลรามาธิบดีได้เตรียมเจ้าหน้าที่ทุกแผนกรอรับสถานการณ์ตลอดทั้งคืน โดยได้จัดจุดแยกและชำระตัวผู้ป่วยอยู่นอกอาคาร เนื่องจากแก๊ซน้ำตาเป็นสารเคมีที่ติดมากับเสื้อผ้า ดังนั้นจึงต้องชำระตัวผู้ป่วยก่อนเข้ารับการรักษา ไม่เช่นนั้นจะเกิดการปนเปื้อนเข้ามาในรพ. เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์และพยาบาล และยืนยันว่าทางโรงพยาบาลมีความพร้อมรับสถานการณ์ แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดอะไรรุนแรงอีก
สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดีในช่วงเย็นหลัง 17.00 น. มีดังนี้
1. นายสำรวย จุลสวัสดิ์ อายุ 68 ปี
2. นายวิสูตร สุภากูลย์ อายุ 30 ปี
3. นายสุชาติ พูนจัตุรัส อายุ 52
4. น.ส.จุฬาลักษณ์ โลหะนวกุล อายุ23ปี
5. นายวิโรจน์ บุญกระเตื้อง อายุ 58 ปี
6. น.ส.พัชรนันท์ เมธัสพงศ์นุกุล อายุ 46 ปี
7. ร.ต.ประวิทย์ รอดปิ่น อายุ 53 ปี
8. น.ส.วิชชุนี พิตรากูล อายุ 43 ปี
9. นายปรีชา สมประสงค์ อายุ 49 ปี
10. นายกิติ ดุชาสุริยอำไพ
11. นายอุดมสุข บริสุทธิ์
12. นางเยี่ยม แซ่ตั้ง
13. นายสมยศ ลิ้มทองดำ
14. นายอดิศักดิ์ ร้อยพรเกษมสุข
15. นายศุภกร ศรมงคลทวีสุข
16. นายปรีชา ตรีจรูญ
17. นายสุรพล บุญดวง
18. นายอานนท์ ไอศนาวัน
19. ส.ต.ท.เชษฐา ลาดี
20. นายสมนึก เหมือนแม้นสกุล
21. นายชนินทร์ กลิ่นสุคนธ์
22. นายทศกรณ์ เอี่ยมกาญจน์
23. นายพีราเชษฐ์ ธราปัญจทรัพย์
ด้านนพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรมัย ผู้อำนวยการสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) กล่าวว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งมีเหตุยิงแก๊สน้ำตาทั้ง 4 จุด คือ ที่บริเวณรัฐสภา กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น) บริเวณแยกการเรือนและหน้าพรรคชาติไทย มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 162 คน เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต้องนอนพักค้างจำนวน 36 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยยังไม่ทราบสาเหตุ การเสียชีวิตที่แน่ชัดในบริเวณที่มีคาร์บอร์มที่หน้าพรรคชาติไทย ทั้งนี้ อมีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจำนวนกว่า 10 คน มีตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย อาการรุนแรง 2 ราย รักษาตัวทีโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ส่วนอีก 2 ราย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ญาติผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมตรวจสอบรายชื่อได้ที่ ศูนย์ประสานงานประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 02-2012457 , 02-2012455
พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณโลหิตของศูนย์บริการฯ ยังไม่ขาดแคลน แต่กลับพบมีปริมาณมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันกับทุกปีที่ผ่านมา โดยปกติในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. จะมีจำนวนผู้บริจาคโลหิตน้อย เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม ทำให้ต้องตระเวนออกหน่วยขอรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีโลหิตคงค้างในธนาคารเลือดจำนวน 400 ยูนิต และมีจำนวนเลือดที่รอการตรวจสอบและสามารถนำมาใช้ได้ในวันพรุ่งนี้(8 ต.ค.)ถึง 1,200 ยูนิต
“สาเหตุที่ทำให้มีปริมาณโลหิตมาก และมีจำนวนผู้บริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องแม้สถานการณ์บ้านเมืองจะตึงเครียด เชื่อว่าเป็นเพราะพลังเงียบที่ต้องการแสดงออกทางการเมืองและเห็นว่าคงจะเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก จึงอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม และจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯตั้งแต่ช่วงเช้าและช่วงบ่ายที่ผ่านมา ยังไม่มีรพ.ที่ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บขอเลือดเพิ่มแต่อย่างใด” พญ.สร้อยสอางค์ กล่าว
ตรวจสอบรายชื่อผู้บาดเจ็บ - เสียชีวิต จากเหตุตำรวจชั่วไล่ฆ่าประชาชน ที่นี่!!!
