“ชินภัทร” เตรียมเสนอ “ศรีเมือง” ดันเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวเด็กพิเศษมากกว่าเด็กทั่วไป ระบุ ให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำวิจัยแล้วว่าจะต้องเพิ่มเติมเงินอุดหนุนรายหัวให้เด็กพิเศษเท่าไหร่ โดยต้องคิดสูตรคำนวณเงินอุดหนุนรายหัวขึ้นใหม่
นายชินภัทร ภูมิรัตน ว่าที่ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากที่นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ เข้ามาทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แล้ว ตนเห็นว่าเรื่องสำคัญที่จะต้องนำเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ ช่วยผลักดัน คือ การดูแลเรื่องเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวนักเรียนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายวิจิตร ศรีสอ้าน เป็น รมว.ศึกษาธิการ ได้อนุมัติไว้ ไม่ให้เกิดปัญหาติดขัด เป็นไปตามอัตราที่ได้รับจัดสรรเพิ่มเติมอย่างเพียงพอ นอกเหนือจากการจัดเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวให้กับนักเรียนทั่วไปแล้ว ที่สำคัญ ตนเห็นว่า การให้การอุดหนุนควรเพิ่มเติมให้กับนักเรียนพิเศษ ได้แก่ เด็กพิการ เด็กด้อยโอกาสที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล มีฐานะยากจน เด็กตามแนวชายแดน และในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีความห่วงใยต่อเด็กกลุ่มนี้ นอกเหนือจากการดูแลเรื่องเงินอุดหนุนรายหัวให้เพียงพอแล้ว ยังจะต้องเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังเด็กที่ขาดแคลนโดยเฉพาะด้วย เพราะ ศธ.มีหน้าที่รับผิดชอบเด็กที่อยู่ในวัยศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี จำนวนหลายพันคน หากยังไม่สามารถจัดการศึกษาได้ทั่วถึง ก็จำเป็นต้องเติมเต็มในจุดที่ขาดหายไป
นายชินภัทร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำการวิจัยค่าใช้จ่ายรายหัวสำหรับเด็กพิเศษกลุ่มนี้ ว่า ควรมีอัตราการอุดหนุนเพิ่มเติมจากเด็กทั่วไปจำนวนเท่าใด อย่างไรบ้าง โดยการวิจัยดังกล่าวได้ศึกษาถึง 4 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ 1.อัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวปัจจุบันซึ่งเป็นอัตราคงที่ 2.อัตราการจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติมโดยพิจารณาถึงตัวแปร และภูมิหลังปัญหาความขาดแคลนของโรงเรียน 3.ความขาดแคลนด้านเศรษฐกิจของนักเรียน และ 4.นโยบายสำหรับเด็กพิเศษของ ศธ.ทั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาอัตราเงินอุดหนุนรายหัวให้เด็กพิเศษ โดยต้องหารือเพิ่มเติมถึงสูตรการคำนวณค่าใช้จ่ายรายหัวให้เด็กพิเศษกันใหม่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนอย่างครบถ้วน และสมบูรณ์ และต้องพิจารณาถึงความขาดแคลนของโรงเรียนเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนการสอน และครุภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องเพิ่มเติมให้ด้วย อย่างไรก็ตาม การขอเพิ่มเติมเงินอุดหนุนรายหัวให้กลุ่มเด็กพิเศษนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะต้องหารือร่วมกับสำนักงบประมาณในเรื่องดังกล่าวด้วย
นายชินภัทร ภูมิรัตน ว่าที่ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากที่นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ เข้ามาทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แล้ว ตนเห็นว่าเรื่องสำคัญที่จะต้องนำเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ ช่วยผลักดัน คือ การดูแลเรื่องเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวนักเรียนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายวิจิตร ศรีสอ้าน เป็น รมว.ศึกษาธิการ ได้อนุมัติไว้ ไม่ให้เกิดปัญหาติดขัด เป็นไปตามอัตราที่ได้รับจัดสรรเพิ่มเติมอย่างเพียงพอ นอกเหนือจากการจัดเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวให้กับนักเรียนทั่วไปแล้ว ที่สำคัญ ตนเห็นว่า การให้การอุดหนุนควรเพิ่มเติมให้กับนักเรียนพิเศษ ได้แก่ เด็กพิการ เด็กด้อยโอกาสที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล มีฐานะยากจน เด็กตามแนวชายแดน และในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีความห่วงใยต่อเด็กกลุ่มนี้ นอกเหนือจากการดูแลเรื่องเงินอุดหนุนรายหัวให้เพียงพอแล้ว ยังจะต้องเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังเด็กที่ขาดแคลนโดยเฉพาะด้วย เพราะ ศธ.มีหน้าที่รับผิดชอบเด็กที่อยู่ในวัยศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี จำนวนหลายพันคน หากยังไม่สามารถจัดการศึกษาได้ทั่วถึง ก็จำเป็นต้องเติมเต็มในจุดที่ขาดหายไป
นายชินภัทร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำการวิจัยค่าใช้จ่ายรายหัวสำหรับเด็กพิเศษกลุ่มนี้ ว่า ควรมีอัตราการอุดหนุนเพิ่มเติมจากเด็กทั่วไปจำนวนเท่าใด อย่างไรบ้าง โดยการวิจัยดังกล่าวได้ศึกษาถึง 4 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ 1.อัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวปัจจุบันซึ่งเป็นอัตราคงที่ 2.อัตราการจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติมโดยพิจารณาถึงตัวแปร และภูมิหลังปัญหาความขาดแคลนของโรงเรียน 3.ความขาดแคลนด้านเศรษฐกิจของนักเรียน และ 4.นโยบายสำหรับเด็กพิเศษของ ศธ.ทั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาอัตราเงินอุดหนุนรายหัวให้เด็กพิเศษ โดยต้องหารือเพิ่มเติมถึงสูตรการคำนวณค่าใช้จ่ายรายหัวให้เด็กพิเศษกันใหม่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนอย่างครบถ้วน และสมบูรณ์ และต้องพิจารณาถึงความขาดแคลนของโรงเรียนเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนการสอน และครุภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องเพิ่มเติมให้ด้วย อย่างไรก็ตาม การขอเพิ่มเติมเงินอุดหนุนรายหัวให้กลุ่มเด็กพิเศษนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะต้องหารือร่วมกับสำนักงบประมาณในเรื่องดังกล่าวด้วย
