รมช.สาธารณสุข สั่งเก็บผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนม 6 ชนิด “เวเฟอร์ยี่ห้อโอริโอ-ช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็ม-ถั่วลิสงคาราเมล และนูกัตเคลือบช็อกโกแลตนมตราสนิกเกอร์” ออกจากร้านจำหน่ายทันทีภายในเวลา 15.00 น.วันนี้ เพื่อตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนสารเมลามีน
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ นพ.ชาตรี บานชื่น เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงมาตรการคุมเข้มกรณีป้องกันไม่ให้ไทยมีอาหารปนเปื้อนสารเมลามีน โดยสั่งการว่าภายในเวลา 15.00 น.วันนี้ (25 ก.ย.) ต้องเก็บผลิตภัณฑ์ 6 ชนิดออกจากที่จำหน่าย คือ
คอฟฟี่ โอทมีล แครกเกอร์ (ขนมปังกรอบและข้าวโอ๊ตรสกาแฟตราเหมาฮวด) นำเข้าโดยบริษัท พีอาร์ อิมเพ็ก 2.เวเฟอร์ สติก ไวท์ ช็อกโกแลต ขาว เครื่องหมายการค้าโอริโอ นำเข้าโดยบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด 3.ช็อกโกแลตนม ตราโดฟ นำเข้าโดยบริษัท มาร์สไทยแลนด์อิงค์ 4.ช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาลสีต่างๆ ตราเอ็มแอนด์เอ็ม จากบริษัท มาร์ส 5.ถั่วลิสงคาราเมลและนูกัตเคลือบช็อกโกแลตนม ตราสนิกเกอร์ บริษัท มาร์ส 6.เมนทอสโยเกิร์ตมิกซ์ (ลูกอมรสโยเกิร์ตกลิ่นผลไม้รวม) นำเข้าโดยบริษัท ซีโน-แปซิฟิก เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของนมที่นำเข้าจากประเทศจีนทั้ง 4 บริษัท ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี เช่นเดียวกับ 3 ห้างใหญ่ผู้จำหน่ายในประเทศคือ ห้างเทสโก้ โลตัส ห้างท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และเซเว่น-อีเลฟเว่น ได้ให้ความร่วมมือเก็บผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกจากชั้นวางในห้างทั้งหมดตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะทราบผลวิเคราะห์ ซึ่งคาดว่าใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 สัปดาห์ หากผลการตรวจไม่พบสารเมลามีนปนเปื้อน ก็จะให้วางจำหน่ายได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอให้ความมั่นใจประชาชนไทย อย่าวิตกกังวลจนเกินเหตุ กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และเฝ้าระวังสินค้าที่นำเข้าและวางจำหน่ายในท้องตลาดเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ใช่จะตรวจเฉพาะเมื่อมีปัญหา แต่อาจจะมีการลักลอบนำเข้ามาได้ โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ซึ่งมักจะมีราคาถูก ประชาชนนิยมซื้อ หากพบเห็นสินค้าตามรายการที่ระบุข้างต้น ขอให้งดบริโภคชั่วคราวก่อนจนกว่าจะมีผลตรวจยืนยัน และหากไม่มั่นใจขอให้โทรแจ้งที่ 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการตรวจสอบทันที
นายวิชาญ กล่าวว่า อย่างน้อยเบื้องต้นขณะนี้มี 6 ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก ให้หยุดจำหน่ายเป็นการชั่วคราว และอาจมีที่นำเข้านอกเหนือจากนี้ อย.จะมีคำสั่งห้ามต่อไป จากนั้นจะผลิตภัณฑ์มาตรวจวิเคราะห์ก่อนว่ามีสารเมลามีนปนเปื้อนหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้ผู้บริโภค ไม่ต้องการให้เกิดการตื่นตระหนก ขอให้เลือกดูฉลากระบุถึงแหล่งนำเข้าและผลิตให้ชัดเจน
สำหรับลักษณะเป็นพิษของสารเมลามีน แม้จะต่ำมาก แต่หากได้รับต่อเนื่องอาจทำให้เกิดระคายเคืองต่อระบบการเดินของระบบปัสสาวะ เช่น ไต กระเพาะปัสสาวะ เมื่อสารเมลามีนจะไปรวมกับสารเคมีอื่น อาจกลายเป็นก้อนนิ่วอุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็ง หรือไตวาย ได้ อย.ได้ยึดค่าความปลอดภัยตามอียู คือ 0.50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หากนำมาคำนวณความเสี่ยงจากการบริโภคนม ที่ปนเปื้อนสารเมลามีน ในกลุ่มเด็กแรกเกิดถึง 2 เดือน และในกลุ่มเด็ก 6-8 เดือน ปริมาณที่บริโภคแล้วร่างกายสามารถขับออกได้เองตามธรรมชาติต่ำสุดไม่เกิน 19 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม ส่วนเด็ก 6-8 เดือน ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม อย.ก็ควบคุมอยู่แล้ว
ด้านนพ.ชาตรี บานชื่น เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการร่วมกับ 4 บริษัทที่นำเข้าผลิตภัณฑ์นมจากจีน ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์มีการปนเปื้อนสารเมลามีน แต่ที่ให้งดจำหน่ายไปก่อน เนื่องจากเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ให้ได้รับความปลอดภัยและมั่นใจ เป็นตัวอย่างผู้ประกอบการที่น่าชื่นชม
ส่วนนพ.ศิริศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้ทำหนังสือแจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ให้แจ้งไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งและกุมารแพทย์ ให้เฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงของโรคนิ่วในทารกอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ที่เกิดจากการบริโภคนมผงที่ปนเปื้อนสารเมลามีน ย้อนหลังตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 หากพบหรือสงสัย ขอให้แจ้งสำนักระบาดวิทยา เพื่อที่จะให้ทีมออกไปสอบสวนในรายละเอียด แต่โดยทั่วไปปัญหานิ่วในไตในเด็กวัยนี้พบได้น้อยมาก โดยกรณีนิ่วในไตจากสารเมลามีนในเบื้องต้นยังไม่เคยมีรายงานในประเทศไทยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดกลุ่มอาการของเด็กทารกที่เป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ จะมีอาการร้องไห้เวลาปัสสาวะ หรือปัสสาวะมีเลือดปน โดยเด็กที่เข้าข่ายว่าจะเป็นนิ่วจากการกินนมผงที่ปนเปื้อนเมลามีน จะต้องมีข้อมูลดังนี้คือ อายุตำกว่า 1 ขวบ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคนิ่วในไตหรือโรคไต และมีประวัติกินนมผงที่นำเข้าจากจีนก่อนวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ซึ่งกรมควบคุมโรคได้จัดส่งแบบฟอร์มการสอบสวนผู้ป่วยไปให้ทุกจังหวัดแล้ว
