สธ.สั่งตรวจผลิตภัณฑ์นมที่มาจากจีน ป้องกันเข้มไม่ให้ลักลอบนำเข้าชายแดน เตือนประชาชนอย่าซื้อนมผงแบ่งขาย ด้าน อย.สุ่มตรวจทุกชนิด ทุกยี่ห้อในท้องตลาด คาดอีก 1 สัปดาห์รู้ผล ขณะที่ปลัด สธ.ทำหนังสือไปยัง สสจ.-โรงพยาบาล ให้สังเกตอาการเด็กพบป่วยผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน ร้องไห้ งอแง หรือเป็นนิ่วที่ไตเฉียบพลันให้สอบสวนโรคว่ามาจากสาเหตุใด
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลิตภัณฑ์นมจากประเทศจีน ปนเปื้อนสารเมลามีน รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้วัตถุดิบนมจากจีน เช่น นมพร้อมดื่ม โยเกิร์ต ไอศกรีม ซึ่งในประเทศต่างๆ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ขณะนี้มีข่าวการเรียกคืนผลิตภัณฑ์นั้น ว่า สธ.ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และมีมาตรการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์นมจากแหล่งผลิตของจีนที่มีปัญหา ไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหนังสือถึง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ กรมศุลกากร ให้เข้มงวดการตรวจสอบการนำเข้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าโดยเฉพาะบริเวณชายแดน อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภค อย่าซื้อนมผงชนิดแบ่งขาย ซึ่งไม่มีฉลากเครื่องหมาย อย.อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนก เพราะ สธ.มีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างเต็มที่
ภก.มานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบการนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจาก บริษัท ซานลู่ กรุ๊ป ที่พบการปนเปื้อนสาร-เมลามีน แต่อย่างไรก็ตาม อย.ได้ให้ด่านอาหารและยา อายัดวัตถุดิบนมที่นำเข้าจากจีน ทุกล็อต เพื่อนำมาตรวจสอบแล้ว หากไม่พบปนเปื้อนสารเมลามีนจึงให้นำเข้าได้ ทั้งนี้ ในส่วนที่ได้ประสานข้อมูลกับกรมศุลกากร เพื่อร่วมในการเฝ้าระวังการนำเข้าวัตถุดิบนมจากจีน และให้เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจผลิตภัณฑ์นม ทั้งนมผงและผลิตภัณฑ์อาหารประเภทอื่นๆ ที่ใช้นมเป็นส่วนประกอบ ดังกล่าวข้างต้นที่จำหน่ายในท้องตลาดและที่โรงงานผลิตด้วย
“จากการเก็บข้อมูลตั้งแต่ต้นปี 2551 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีการนำนมผงดิบจากจีนมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำนมยูเอชที 2-3 ล็อต แต่เป็นเพียงการทดลองผลิตและยังไม่ได้ผลิตจำหน่าย จึงได้สั่งการให้ระงับการผลิตดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้ง อย.ได้สุ่มตรวจจากท้องตลาดทุกชนิดและทุกยี่ห้อ ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตส่งข้อมูลตรวจวิเคราะห์เอง และ อย.ก็เพื่อตรวจคู่ขนาน เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนด้วย คาดว่า อีก 1 สัปดาห์ทราบผล ซึ่ง อย.จะแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค” ภก.มานิตย์ กล่าว
ภก.มานิตย์ กล่าวต่อว่า ขอแนะนำว่า ผู้บริโภคไม่ควรซื้อนมผงที่ไม่มีฉลาก หรือพวกที่แบ่งขายในราคาถูก โดยไม่มีภาชนะบรรจุที่มิดชิด ซึ่งอาจเป็นหางนม หรือนมผงธรรมดาที่ไม่มีประโยชน์ต่อเด็ก หรืออาจเป็นนมผงที่มีสารปนเปื้อนนำมาจำหน่ายก็ได้
ขณะที่ นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.ได้เตรียมทำหนังสือถึงสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพื่อให้ทำหนังสือเวียนแจ้งโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ให้เฝ้าสังเกตอาการทารกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในช่วงเวลานี้ว่า หากทารกมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร้องไห้ งอแง หรือเป็นนิ่วที่ไตเฉียบพลันให้แจ้งยอดจำนวนผู้ป่วยมายังส่วนกลาง พร้อมตรวจวิเคราะห์สอบสวนโรคว่ามาจากสาเหตุใด เกี่ยวข้องกับนมจากประเทศจีนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ได้ส่งอีเมล์ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับรายงาแต่อย่างใด
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลิตภัณฑ์นมจากประเทศจีน ปนเปื้อนสารเมลามีน รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้วัตถุดิบนมจากจีน เช่น นมพร้อมดื่ม โยเกิร์ต ไอศกรีม ซึ่งในประเทศต่างๆ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ขณะนี้มีข่าวการเรียกคืนผลิตภัณฑ์นั้น ว่า สธ.ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และมีมาตรการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์นมจากแหล่งผลิตของจีนที่มีปัญหา ไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหนังสือถึง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ กรมศุลกากร ให้เข้มงวดการตรวจสอบการนำเข้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าโดยเฉพาะบริเวณชายแดน อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภค อย่าซื้อนมผงชนิดแบ่งขาย ซึ่งไม่มีฉลากเครื่องหมาย อย.อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนก เพราะ สธ.มีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างเต็มที่
ภก.มานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบการนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจาก บริษัท ซานลู่ กรุ๊ป ที่พบการปนเปื้อนสาร-เมลามีน แต่อย่างไรก็ตาม อย.ได้ให้ด่านอาหารและยา อายัดวัตถุดิบนมที่นำเข้าจากจีน ทุกล็อต เพื่อนำมาตรวจสอบแล้ว หากไม่พบปนเปื้อนสารเมลามีนจึงให้นำเข้าได้ ทั้งนี้ ในส่วนที่ได้ประสานข้อมูลกับกรมศุลกากร เพื่อร่วมในการเฝ้าระวังการนำเข้าวัตถุดิบนมจากจีน และให้เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจผลิตภัณฑ์นม ทั้งนมผงและผลิตภัณฑ์อาหารประเภทอื่นๆ ที่ใช้นมเป็นส่วนประกอบ ดังกล่าวข้างต้นที่จำหน่ายในท้องตลาดและที่โรงงานผลิตด้วย
“จากการเก็บข้อมูลตั้งแต่ต้นปี 2551 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีการนำนมผงดิบจากจีนมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำนมยูเอชที 2-3 ล็อต แต่เป็นเพียงการทดลองผลิตและยังไม่ได้ผลิตจำหน่าย จึงได้สั่งการให้ระงับการผลิตดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้ง อย.ได้สุ่มตรวจจากท้องตลาดทุกชนิดและทุกยี่ห้อ ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตส่งข้อมูลตรวจวิเคราะห์เอง และ อย.ก็เพื่อตรวจคู่ขนาน เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนด้วย คาดว่า อีก 1 สัปดาห์ทราบผล ซึ่ง อย.จะแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค” ภก.มานิตย์ กล่าว
ภก.มานิตย์ กล่าวต่อว่า ขอแนะนำว่า ผู้บริโภคไม่ควรซื้อนมผงที่ไม่มีฉลาก หรือพวกที่แบ่งขายในราคาถูก โดยไม่มีภาชนะบรรจุที่มิดชิด ซึ่งอาจเป็นหางนม หรือนมผงธรรมดาที่ไม่มีประโยชน์ต่อเด็ก หรืออาจเป็นนมผงที่มีสารปนเปื้อนนำมาจำหน่ายก็ได้
ขณะที่ นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.ได้เตรียมทำหนังสือถึงสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพื่อให้ทำหนังสือเวียนแจ้งโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ให้เฝ้าสังเกตอาการทารกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในช่วงเวลานี้ว่า หากทารกมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร้องไห้ งอแง หรือเป็นนิ่วที่ไตเฉียบพลันให้แจ้งยอดจำนวนผู้ป่วยมายังส่วนกลาง พร้อมตรวจวิเคราะห์สอบสวนโรคว่ามาจากสาเหตุใด เกี่ยวข้องกับนมจากประเทศจีนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ได้ส่งอีเมล์ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับรายงาแต่อย่างใด