xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” แฉไม่หยุด สับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าฝั่งธนฯ เอื้อประโยชน์เอกชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เบอร์ 8
“ชูวิทย์” เอาอีก! เดินหน้าแฉโครงการไม่ประสบความสำเร็จของ “อภิรักษ์” คราวนี้ถึงคิวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า 2.2 กิโลเมตรไปฝั่งธนฯ ชี้ระบบอาณัติสัญญาณเอื้อประโยชน์เอกชน พร้อมนำนักข่าวพิสูจน์ความจริงใช้ตลับเมตรวัดระยะซอยร่วมฤดี ที่ชาวบ้านฟ้อง “หล่อเล็ก-ผอ.ปทุมวัน” ต่อศาลปกครอง เผย ถ้าเป็นพ่อเมืองกรุงจะไม่ยอมปล่อยให้มีเรื่องอื้อฉาวเด็ดขาด

วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 8 สังกัดอิสระ แถลงข่าวโจมตีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ที่บริเวณสถานีเจริญนคร (S7) โดยกล่าวว่า โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีลมระยะทาง 2.2 กิโลเมตรนี้ เป็นโครงการที่ กทม.ลงทุนก่อสร้างเอง 100% แต่กลับตกเป็นเครื่องมือของเอกชน เอื้อประโยชน์ให้บริษัท บีทีเอส จำกัด (มหาชน) เนื่องจากมีการเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญา จากเดิมเป็นระบบ Fix Block มีบริษัท ซีเมนส์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้วางระบบ มาเป็นระบบ Moving Block ซึ่งให้บริษัท บอมบาดิเอร์ จำกัด เป็นผู้วางระบบ ทำให้ กทม.ก็ต้องเลือกบริษัท บอมบาดิเอร์ จำกัด วางระบบอาณัติสัญญาณเหมือนกัน โดยอ้างว่าเพื่อเชื่อมต่อระบบเข้าด้วยกัน แต่แท้ที่จริงทำให้โครงการมีความล่าช้าจากเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ กลายมาเป็น 18 ก.พ.2552 จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ ทั้งนี้ บริษัท บีทีเอส ถือว่าเป็นเอกชนที่มีรายได้มหาศาล แต่ กทม.กลับยอมลงทุนเปลี่ยนระบบเพื่อการโฆษณาหาเสียงให้กับพรรค ไม่ได้สร้างส่วนต่อขยายเพื่อผลประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายชูวิทย์ ได้นำคณะสื่อมวลชนเดินทางมายังซอยร่วมฤดี ถ.วิทยุ เพื่อพิสูจน์ความกว้างของถนนภายในซอยดังกล่าว หลังจากที่มีรองเลขาธิการพระราชวัง แพทย์หลวง และผู้พักอาศัยในซอยร่วมฤดี รวม 24 คน เข้ายื่นต่อศาลปกครอง ฟ้องนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.และ นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตปทุมวัน อนุมัติให้มีการก่อสร้างอาคารสูงเกินกฎหมายกำหนด โดย นายชูวิทย์ ได้ใช้ตลับเมตรวัดความกว้างของถนนให้สื่อมวลชนได้พิสูจน์ความจริง 2 จุด ได้แก่ บริเวณ ซ.ร่วมฤดี 4 และหน้าโครงการ Preen by Sansiri ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยสูง 8 ชั้น ปรากฏว่า ทั้ง 2 จุดที่วัดขนาดผิวจราจรของซอยมีความกว้างเพียง 5.70 เมตร แม้จะวัดรวมฟุตปาธเข้าไปด้วยก็กว้างเพียง 7.70 เมตรเท่านั้น

นายชูวิทย์ กล่าวว่า หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนจะไม่ยอมปล่อยให้ประชาชนไปฟ้องร้องเพื่อให้ดำเนินคดีต่อศาลปกครอง แต่ตนจะเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้ตนขอเรียกร้องให้คนที่ลงลายมือชื่อยินยอมให้มีการก่อสร้างอาคารออกมารับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้ว่าฯกทม.หรือข้าราชการ คือ กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา ส่วนที่ผอ.เขตปทุมวัน อ้างว่าอนุมัติก่อสร้างไปตามแผนที่ระวางที่ระบุว่า ซอยกว้าง 10 เมตรนั้น ตนเห็นว่าเชื่อถือไม่ได้ เพราะแผนที่เก่ามากแล้วตั้งแต่สมัย ร.5-ร.6

“การเป็นผู้ว่าฯ ต้องแก้ปัญหาด้วยความรวดเร็ว ถ้าเป็นชูวิทย์จะมาวัดให้เลย วัดแล้วถ้าไม่เกิน 10 เมตรตึกสูงไม่มีทางได้สร้าง และประชาชนไม่ต้องไปร้องศาลปกครอง หรือถ้าผู้ว่าฯ มาดูด้วยสายตา ฟังด้วยหู เคาะด้วยมือ วัดยังไงก็ไม่เกิน 10 เมตร เรื่องนี้ใครเป็นผู้เซ็นอนุมัติให้ก่อสร้างคนนั้นต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องอ้างหลักฐานแผนที่ วันนี้ประเทศไทยมีศรีธนชัยเยอะ ถ้าเป็นจีนก็แซ่หยวน หยวนตลอด อย่างนี้ใช้ไม่ได้”

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ (18 ก.ย.) ตนได้ทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) และ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.กรณีที่ป้ายหาเสียงของ นายอภิรักษ์ มีภาพของ นายสมศักดิ์ กลั่นพจน์ รองปลัด กทม. ไปปรากฏอยู่ในป้ายหาเสียง เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า นายสมศักดิ์ มีความยินยอมให้ภาพถ่ายปรากฏในป้ายหาเสียงของนายอภิรักษ์หรือไม่ ซึ่งหาก นายสมศักดิ์ ยินยอม แสดงว่า ข้าราชการ กทม.วางตัวไม่เป็นกลาง แต่หาก นายสมศักดิ์ ระบุว่า ไม่ยินยอม ก็แสดงว่า นายอภิรักษ์ ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งตนก็จะดำเนินการตามกระบวนทางกฎหมายต่อไป ซึ่งแม้ขณะนี้ นายอภิรักษ์ จะสั่งทีมงานเก็บป้ายหาเสียงรูปนั้นไปบางส่วนแล้ว แต่ตนก็ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกรณีการแจกการ์ด Wi-Fi 50,000 ชิ้นด้วย

“นายอภิรักษ์ อย่าได้มาขอร้องให้ผมหยุดนำนโยบายสมัยที่เป็นผู้ว่าฯ กทม.มาพูดถึง เพราะในเมื่อ นายอภิรักษ์ ยังประกาศตอนหาเสียงได้ว่า เคยทำนโยบายอะไรไปแล้วบ้าง ผมก็มีสิทธิ์ที่จะพูดถึงนโยบายของนายอภิรักษ์ในส่วนที่ทำไม่สำเร็จได้ ทั้งนี้ วันที่ 21 ก.ย.นี้ตนจะแถลงนโยบายของตนที่ตั้งใจจะนำมาพัฒนา แก้ไขปัญหาให้กับคนกรุงเทพฯ ด้วย” นายชูวิทย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น