กรมศิลปากรเผยความความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ การบูรณะราชรถ ราชยาน และพระยานมาศ รุดหน้าเกือบ 100% ทุกส่วนแล้ว ระบุทุกอย่างต้องการให้สมพระเกียรติสมเด็จพระพี่นางฯ มากที่สุด เชื่อมั่นดำเนินการได้ตรงกำหนดเวลาอย่างแน่นอน ส่วนรูปปั้นเทวดา สัตว์หิมพานต์สิ้นเดือนตุลาคมเสร็จทั้งหมด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 กันยายน นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุ การบูรณะราชรถ ราชยาน และพระยานมาศในส่วนของสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์พร้อมผู้รับผิดชอบในส่วนต่างๆ ทั้งหมด ว่า สำนักช่างสิบหมู่ รับผิดชอบในการจัดทำและซ่อมแซม เครื่องประดับองค์พระเมรุ รวมถึงบูรณะเครื่องใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นาง ซึ่งส่วนใหญ่มีความคืบหน้าไปอย่างมาก และคาดว่าจะดำเนินการทุกอย่างได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
นายนิยม กลิ่นบุปผา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่างศิลปกรรม(ช่างสิบหมู่) กล่าวว่า ในส่วนของการซ่อมราชรถ พระราชยาน พระยานมาศ และส่วนประกอบนั้น ราชรถน้อย หมายเลข 9783 เป็นราชรถที่ชำรุดมากที่สุดในจำนวนราชรถ 5 องค์ที่ต้องบูรณะ ซึ่งขณะนี้การบูรณะรุดหน้าไปเกือบ 100% แล้ว เหลือเพียงการทำรูปแบบโครงสร้างและลวดลายองค์ประกอบราชรถ การเย็บลายทองแผ่ลวด ขั้นตอนประกอบเข้ากับฉัตรเบญจา และขั้นตอนประกอบดาดหลังผ้าต่วนสีแดงที่ยังเหลืออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ การบูรณะราชรถน้อยทุกองค์ กรมสรรพาวุธได้เข้ามาช่วยในเรื่องการซ่อมแซมล้อ และกลไกขับเคลื่อนขององค์ราชรถทั้งหมด โดยได้นำล้อมาประกอบคืนองค์ราชรถแล้ว ส่วนราชรถน้อยอีก 2 องค์ พระเวชยันต์ราชรถ พระที่นั่งราเชนทรยานได้บูรณะเสร็จเรียบร้อย 100% ทั้งหมดแล้ว
“การบูรณะพระมหาพิชัยราชรถดำเนินการเสร็จสิ้นเกือบ 100% เหลือขั้นตอนประกอบเข้ากับฉัตรเบญจา ประกอบตาดหลังผ้าต่วนสีแดงอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับพระวอสีวิกากาญจน์การซ่อมลวดลายแกะสลักที่หักชำรุดคืบหน้าไปกว่า 60% ขณะที่ผ้าหลังคา ปีกนก หน้าจั่วจัดทำขึ้นใหม่ทั้งหมดเกือบแล้วเสร็จแล้ว เกยลา 2 ตัวใช้เทียบราชรถน้อย เชือกฉุดราชรถน้อย 3 องค์ เชือกฉุดพระที่นั่งราเชนทรยาน 1 องค์ และเชือกฉุดพระมหาพิชัยราชรถ 1 องค์ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด”นายนิยมกล่าว
นายนิยม กล่าวต่อไปว่า การจัดทำสลักบุดุนลวดลายตัวเฟื่อง พระมหาพิชัยราชรถ จำนวน 20 ชิ้น และสลักบุดุนลวดลายตัวเฟื่อง ราชรถน้อย จำนวน 12 ชิ้น แล้วเสร็จ 60% สลักบุดุนลายประจำยามและตัวระย้า จำนวน 64 ชิ้น แล้วเสร็จ 40% ส่วนการจัดสร้างเทวดายืน จำนวน 22 องค์ ทำได้ 15 องค์ และเทวดานั่ง จำนวน 20 องค์ ทำได้ 17 องค์ ส่วนที่เหลือดำเนินการได้ 90% การสร้างสัตว์หิมพานต์ อัปสรสีหะ คืบหน้าไป 85% ทั้ง 2 ตัว นกทัณฑิมา อยู่ระหว่างหล่อ และลงสีรองพื้นทั้ง 2 ตัว หงส์ ลงสีทองแล้ว 20 ตัว เขียนสีได้ 10 ตัว ส่วนที่เหลือดำเนินการได้ 90% คาดว่าการดำเนินการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นทันตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างแน่นอน
นายธนิตย์ แก้วนิยม นักวิชาการช่างศิลป์ 8 หัวหน้ากลุ่มงานช่างโลหะและช่างศิราภรณ์ กล่าวว่า ตนรับผิดชอบในส่วนของโครงสร้างโลหะทั้งหมด โดยพระโกศจันทน์แล้วเสร็จแล้ว 100% พระหีบไม้จันทน์แล้วเสร็จ 70% ส่วนพระหีบทองทึบดำเนินการไป 20% ฉัตรโลหะกลีบบัวที่รั้วเหนือทับเกษตร จำนวน 36 คัน แล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะนำมาติดตั้งที่ท้องสนามหลวงได้ในวันที่ 22 กันยายนนี้ โครงฉัตรผ้าทองลายฉลุรอบพระเมรุ จำนวน 18 คัน จัดสร้างโครงฉัตรใหม่แล้วเสร็จ 100% จัดสร้างโครงซุ้มพระจิตกาธานส่วนที่เป็นงานโลหะ เสร็จ 80% คาดว่าไม่เกิน 5 วันแล้วเสร็จ จัดสร้างฉัตรปรุโลหะ 7 ชั้น จำนวน 8 คัน แล้วเสร็จ 100% สำหรับเฟื่องระย้า และพู่ประกอบราชรถเดิมเป็นตะกั่ว ก็ได้จัดทำขึ้นใหม่โดยใช้เงินทั้งหมด ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างต้องการให้สมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่สุด
ด้านนายศักย ขุนพลพิทักษ์ จิตรกร 8ว.หัวหน้ากลุ่มงานจิตรกรรม กล่าวว่า ในส่วนของการจัดสร้างเทวดาทั้งนั่งและยืนนั้น ใบหน้าของเทวดาแต่ละองค์จะไม่เหมือนกันให้มีความร่วมสมัยและรักษาเอกลักษณ์ศิลปะไทยเดิมไว้ ส่วนลวดลายเครื่องประดับจะสอดแทรกทัศนคติ และความเชื่อตามโบราณราชประเพณีไว้ คาดว่าสิ้นเดือนกันยายนการจัดสร้างเทวดาทั้งหมดจะเสร็จสิ้น และภายในสิ้นเดือนตุลาคมทั้งเทวดาและสัตว์หิมพานต์ต่างๆ จะสิ้น 100% ตามแผนงานที่วางไว้