xs
xsm
sm
md
lg

“สมชาย” ทิ้งเก้าอี้เสมา 1 ขอให้รัฐมนตรีใหม่สานต่อโครงการแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สมชาย” ทิ้งเก้าอี้เสมา 1 ขอให้รัฐมนตรีใหม่สานต่อโครงการต่างๆ เพื่อการศึกษามีคุณภาพดีขึ้น โดยจุดประกายโครงการ E-Learning หวังลดช่องว่างการเรียนระหว่างนักเรียนในเมืองกับบ้านนอก
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิด "โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ (Interactive e-Learning) ผ่านโทรทัศน์ MOE Channel" โดยมี นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน รักษาการปลัด ศธ. นายวินัย รอดจ่าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าร่วม โดย นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้การศึกษามีการพัฒนาไปในหลายรูปแบบ มีการแข่งขันกันสูง รวมทั้งโลกหมุนไปเร็วขึ้น ฉะนั้น จะพัฒนารูปแบบเดิมๆ คงไม่ได้ ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีการพัฒนาทันโลก น่ามีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อเป็นการเรียนทางลัด ช่วยปัญหาการขาดแคลนครูวิชาหลัก อย่าง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอังกฤษ

นายสมชาย กล่าวว่า ตนเป็นเด็กบ้านนอก เรียนจบ ม.3 ได้อันดับ 1 ของโรงเรียน พอเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ใหม่ๆ ผมไม่ทราบเลยว่าเด็กกรุงเทพเขาเรียนอะไรกัน มันคนละเรื่องกับที่ผมเคยเรียนมา ไม่แน่ใจว่าได้เรียนหลักสูตรเดียวกันหรือเปล่า และจากที่เคยสอบได้ที่ 1 กลับสอบคาบเส้นโรงเรียนในกรุงเทพฯ ผลการเรียนออกมาเช่นนี้น่าจะจากการเรียนการสอนแตกต่างกัน คุณภาพของครู และอุปกรณ์การเรียนการสอนไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ผมมีแนวคิดว่าทำอย่างไรให้เด็กบ้านนอกกับเด็กในเมือง มีความรู้ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ต้องมีความเข้าใจที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งตนหวังว่าโครงการนี้น่าจะประสบความสำเร็จ เพราะแด็กกรุงเทพฯเรียนแบบไหน เด็กต่างจังหวัดก็เรียนเหมือนกัน

“ช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่ให้ถึง 4 ปี เพราะมีหลายโครงการที่อยากทำ ทั้ง โครงการ One Laptop Per Child การพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ อังกฤษ เรื่องปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอน เรื่องเรียนฟรี 12 ปี อย่างมีคุณภาพ เรื่องการเรียนการสอนแบบสมัยใหม่ที่สอนให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง มีภาวะเป็นผู้นำ อย่างไรก็ดี โครงการเหล่านี้ตนเริ่มต้นไว้แล้ว อยากให้คนใหม่เข้ามาสานต่อ”นายสมชาย กล่าว

นายชินภัทร กล่าวว่า โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ เป็นโครงการที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาให้เด็กไทยในชนได้เรียนกับครูที่เก่ง ดี มีประสบการณ์ และเพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดคาลนครูอีกทั้งช่วยยกคุณภาพการเรียนการสอนให้ดีขึ้นด้วย โดยมีแผนการดำเนินงาน 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ปี 2551 จะมีโรงเรียนนำร่องทั่วประเทศจำนวน 12 โรง สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ระยะที่ 2 ปี 2552 จะมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 280 โรง สอนในระดับชั้นม.2 และ ม.3 ระยะที่ 3 ปี 2553 จะขยายจำนวนโรงเรียนในโครงการออกเป็น 1,200 โรง ในระดับช่วงชั้นที่ 2 คือ ป.4-6 และระยะที่ 4 จะเพิ่ม โรงเรียนในโครงการอีก 1,300 โรง ครอบคลุมนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.4 ถึง ม.3 และเมื่อครบ 4 ปีจะมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการประมาณ 3,000 โรง

“เป็นการสอนทางไกลสามารถสื่อสารได้ทั้ง 2 ทาง คือ ระหว่างการสอนนักเรียนจากโรงเรียนปลายทางและนักเรียนสามารถซักถามข้อสงสัยได้ทันที่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทุกคำถามของนักเรียนจะได้รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญทันที และหลังการสอนทุกครั้งจะมีการบันทึกการสอนไว้ในเครื่องแม่ข่ายเพื่อให้โรงเรียนต่างๆ สามารถดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ตไปเรียนซ้ำได้ตลอดเวลา” นายชินภัทร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น