xs
xsm
sm
md
lg

ชี้คนไทย 1 ใน 5 มีปัญหาสุขภาพจิต เตือนหมกมุ่นการเมืองมากสมรรถภาพทางเพศลด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรมสุขภาพจิต แนะรัฐบาล-พันธมิตรฯ ชนวนสร้างความขัดแย้ง ต้องช่วยกันคลายทุกข์ให้สังคม ยอมรับกติกา ถอยคนละก้าว ระวังหมกมุ่นการเมืองมาก สมรรถภาพทางเพศลด ครอบครัวแตกแยก แนะใช้หลัก “5 อย่า” ฝ่าวิกฤต “อย่าวู่วาม-อย่าหนีปัญหา-อย่าคิดแต่จะพึ่งพาผู้อื่น-อย่าเอาแต่ลงโทษตัวเอง-อย่าโยนความผิดให้คนอื่น ย้ำ 1 ใน 5 คนไทย มีปัญหาสุขภาพจิต ขนาดผู้นำ คนดัง ยังเป็นซึมเศร้าไม่รู้ตัว

นพ.หม่อมหลวง สมชาย จักรพันธุ์
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจ สังคมมีปัญหาความวุ่นวาย ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางสังคมและวัฒนธรรม ส่งผลให้คนไทยประสบกับภาวะความเครียดที่นำมาสู่โรคทางจิตเวชได้ การคลายทุกข์สร้างสุข สามารถทำได้โดยให้ผู้ที่ทำให้เกิดทุกข์จะต้องช่วยกันคลายทุกข์ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เพราะความขัดแย้งนั้นทำให้คนเกิดทุกข์ ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต้องช่วยกันลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ยึดกฎ กติกาของสังคม และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะหากสร้างกติกาขึ้นใหม่เองก็จะเป็นความขัดแย้งที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“การจะช่วยให้คนไทยมีความสุขมากยิ่งขึ้น คงจะต้องถอยกันคนละก้าว เพราะขณะนี้คนกรุงเทพฯ ต่างก็ต้องทุกข์เรื่องทำมาหากิน การเมือง ขณะที่คนต่างจังหวัดกำลังประสบภัยธรรมชาติ เหล่านี้อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ เจ็บป่วยตั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะนักธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากการท่องเที่ยว หรือในครอบครัวที่มีความเห็นขัดแย้งต่างขั้วกันก็นำมาสู่ความแตกแยก และหากหมกมุ่นเครียดเรื่องการเมืองมากเกินไปก็อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงก็เป็นได้”นพ.หม่อมหลวง สมชาย กล่าว

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า กลุ่มที่มีความเห็นเป็นกลางออกมาแสดงตัวบ้างก็ดี อาจใส่เสื้อขาว เสื้อดำ เพื่อแสดงพลัง ไม่ต้องการความขัดแย้ง และไม่อยากให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอาจจะต้องเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามวาระ ไม่สามารถเปลี่ยนได้โดยทันที การอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วคงไม่ได้ ในเวลานี้

“ช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา ไม่รู้เป็นอย่างไร บรรยากาศในสังคมไทยๆ ที่มีความรอมชอม อะลุ่มอล่วย หายไป หรือลดน้อยลงไป ทั้งๆ ที่คนไทยเป็นคนที่พูดจากันได้ แต่นี่ไม่ยอมกันเลย ดังนั้น ควรจะหันมาคุยกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายก็คงไม่ได้อย่างที่ตัวเองคิดหรือต้องการทุกอย่าง เรื่องประชาธิปไตยมีการถกเถียงมานาน มีหลายความคิด การชุมนุมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็อาจต้องปล่อยให้มีไป เพราะในที่สุดแล้วก็อาจจะเหนื่อยกันไปเอง” นพ.หม่อมหลวง สมชาย กล่าว

นพ.หม่อมหลวง สมชาย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ไม่เป็นห่วงสุขภาพจิตของกลุ่มผู้ชุมนุมเท่าใดนักเพราะได้แสดงออกทางความคิดความเห็นทางการเมือง มีดนตรี ความบันเทิงช่วยผ่อนคลาย แต่ประเด็นสำคัญ คือ การที่ได้รับฟังข้อมูลแล้ว จะต้องคิดพิจารณาให้ดี จะต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ดูแลสุขภารพร่างกายให้มาก เพราะหากมีการกระตุ้นเร้าอารมณ์เกิดความโกรธฉุนเฉียวก็อาจทำให้ความดันโลหิตสูงได้ ทั้งนี้ ขอแนะแนวทางสร้างสุขท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง ด้วย 5 อย่า คือ 1.อย่า แก้ปัญหาแบบวู่วามใช้อารมณ์เป็นใหญ่ 2.อย่า หนีปัญหา 3. อย่า คิดแต่จะพึ่งพาผู้อื่นอยู่เรื่อยไป 4.อย่า เอาแต่ลงโทษตัวเอง และ 5.อย่า โยนความผิดให้คนอื่น

นพ.หม่อมหลวง สมชาย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันจากตัวเลขประมาณการของกรมสุขภาพจิต พบ 1 ใน 5 คนไทย มีปัญหาสุขภาพจิต และพบว่า คนไทย 5% หรือประมาณ 3 ล้านคน ประสบภาวะซึมเศร้า แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจและเข้าถึงบริการน้อย ดังนั้น การให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว สามารถรักษาให้หายได้ ตลอดจน การให้โอกาสและสร้างกำลังใจให้กับผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิตให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข

“ปัญหาสุขภาพจิต เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสาขาอาชีพ จะเห็นได้ว่า ในต่างประเทศ ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนต่างประสบกับปัญหาสุขภาพจิต อาทิ แวน โก๊ะห์ จิตรกรและศิลปินชื่อดัง วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ผู้ซึ่งนำพาประเทศชนะฮิตเลอร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือแม้แต่ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 16 อย่าง ฮัมบราฮัม ลินคอรน์ ต่างประสบกับปัญหาสุขภาพจิตป่วยด้วยโรคซึมเศร้าซึ่งอาจไม่รู้ตัวแทบทั้งสิ้น” นพ.หม่อมหลวง สมชาย กล่าว

นพ.หม่อมหลวง สมชาย กล่าวถึงงาน “คลายทุกข์...สร้างสุข” ที่จัดขึ้นโดยกรมสุขภาพจิตด้วยว่า ถือเป็นการเริ่มต้นให้ความสนใจและเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต เพื่อให้เกิดความเข้าใจและช่วยให้เราสามารถมองผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและลดอคติที่มีต่อผู้ป่วยลง เพราะไม่มีใครอยากป่วยเป็นโรคจิต แต่ถ้ามีปัจจัยที่ทำให้ต้องป่วยหรือต้องอยู่กับผู้ป่วยก็ควรที่จะทำใจยอมรับ ซึ่งทุกคนไม่ว่าเขาหรือเราล้วนมีโอกาสป่วยด้วยกันทั้งนั้น

“การจัดงานในครั้งนี้เป็นโอกาสดี ที่ทุกคนในสังคมจะได้มาเรียนรู้และทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต เพื่อให้เราไม่รังเกียจเขาและเขาไม่รังเกียจเรา หันมาร่วมมือร่วมใจกันเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตกันอย่างจริงจังกันมากขึ้น” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว

ด้านนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การจัดงาน “คลายทุกข์...สร้างสุข” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพจิตที่ถูกต้องแก่สังคม ลดอคติ สร้างกำลังใจ และ ให้โอกาสกับผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิตให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข เป็นการเปิดประตูใจให้สังคมมองถึงศักยภาพของผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตว่ามีศักยภาพที่ดีเทียบเท่าคนปกติได้เช่นกัน ทั้งนี้ กำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน 2551 ณ Lifestyle Hall ชั้น 2 สยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงผลงานศิลปะและผลิตภัณฑ์จากฝีมือของผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิต ที่ได้รับรางวัลในประเภทต่างๆ ผลงานเด่นๆ เช่น ภาพถ่ายในหัวข้อ “จากเศร้า...สู่สุข” ซึ่งมีผู้ส่งประกวดเป็นจำนวนมากถึง 402 ผลงาน ผลิตภัณฑ์จากฝีมือของผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิต กว่า 60 ชิ้น ซึ่งผลงาน ที่ได้รับรางวัลในแต่ละประเภทได้นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ภายในงานยังมีนิทรรศการสุขภาพจิต รวมทั้งการเปิดโซนให้บริการความรู้ ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสร้างสุขกับโซนต่างๆ อาทิ โซนแนวทางความสุข โซนตรวจวัดความสุขและโซนสุขกับการให้ ฯลฯ รวมไปถึงการเปิดเวทีเสวนา เรื่อง “สุข...สร้างได้” ผ่านมุมมองของจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ทำงานอยู่ในแวดวงบันเทิง โดยนพ.เทอดศักดิ์ เดชคง และ อุ้ม สิริยากร พุกกะเวช ในส่วนไฮไลท์สำคัญของงานคือการเปิดเสวนากับ น้องเก๋ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล แชมป์ยกน้ำหนักหญิงเหรียญทองโอลิมปิกจากปักกิ่งเกมส์ ในเรื่อง “ความสุข ที่ยิ่งใหญ่” ที่จะมาบอกถึงวิธีการจัดการสภาพจิตใจของตัวเองจากการต่อสู้กับความยากแค้นของชีวิตจากทุกข์...สุขกับเวลาที่รอคอยมาถึง 8 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น