ปลัด กทม.สั่งตั้งศูนย์อำนวยการทั้ง 50 เขต เพื่อติดตามสถานการณ์ชุมนุมอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งกำลังเทศกิจ 1,000 นาย ช่วยตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยทั้งสถานที่ราชการ ปั๊มแก๊ส-น้ำมัน
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมด่วนหัวหน้าหน่วยงาน กทม.ทั้งรองปลัด กทม.ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการเขต ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหลังใช้ยุทธการไทยคู่ฟ้า ว่า การเรียกประชุมครั้งนี้เป็นการมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือสถานการณ์การชุมนุมที่กระจายออกไปในพื้นที่ต่างๆ โดยสั่งการให้ดูแลความปลอดภัยของสถานที่ราชการ และในพื้นที่ที่ประชาชนมาชุมนุมเป็นจำนวนมากตลอด 24 ชม.ตลอดจนเพิ่มจุดตรวจให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงตรวจตราสถานประกอบการที่ล่อแหลมต่อความสงบของประชาชน เช่น ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส
นอกจากนี้ กทม.ได้ตั้งศูนย์อำนวยการขึ้นที่ศาลาว่าการ กทม.และสั่งการให้ทั้ง 50 สำนักงานเขตตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พ.ต.ท.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นายธนิก ยูถะสุนทร์ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) และ นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กทม.เป็นผู้บัญชาการศูนย์
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจจากสำนักเทศกิจ และสำนักงานเขตต่างๆ จำนวน 1,000 นาย เพื่อไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลสถานการณ์ทั้งเรื่องความปลอดภัย และเรื่องปัญหาการจราจรในช่วงเย็นที่จะเป็นช่วงเลิกเรียนและเลิกงานของข้าราชการและประชาชน รวมทั้งได้ส่งรถพยาบาล และรถน้ำไปอยู่ในพื้นที่ที่มีการชุมนุม อีกทั้งได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทุกแห่งเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุอันตราย ส่วนในสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ลาราชการ หรือผู้บริหารอยู่ในช่วงใกล้หมดวาระนั้น ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะได้ปฏิบัติตามแผนที่วางไว้
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมด่วนหัวหน้าหน่วยงาน กทม.ทั้งรองปลัด กทม.ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการเขต ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหลังใช้ยุทธการไทยคู่ฟ้า ว่า การเรียกประชุมครั้งนี้เป็นการมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือสถานการณ์การชุมนุมที่กระจายออกไปในพื้นที่ต่างๆ โดยสั่งการให้ดูแลความปลอดภัยของสถานที่ราชการ และในพื้นที่ที่ประชาชนมาชุมนุมเป็นจำนวนมากตลอด 24 ชม.ตลอดจนเพิ่มจุดตรวจให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงตรวจตราสถานประกอบการที่ล่อแหลมต่อความสงบของประชาชน เช่น ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส
นอกจากนี้ กทม.ได้ตั้งศูนย์อำนวยการขึ้นที่ศาลาว่าการ กทม.และสั่งการให้ทั้ง 50 สำนักงานเขตตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พ.ต.ท.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นายธนิก ยูถะสุนทร์ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) และ นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กทม.เป็นผู้บัญชาการศูนย์
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจจากสำนักเทศกิจ และสำนักงานเขตต่างๆ จำนวน 1,000 นาย เพื่อไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลสถานการณ์ทั้งเรื่องความปลอดภัย และเรื่องปัญหาการจราจรในช่วงเย็นที่จะเป็นช่วงเลิกเรียนและเลิกงานของข้าราชการและประชาชน รวมทั้งได้ส่งรถพยาบาล และรถน้ำไปอยู่ในพื้นที่ที่มีการชุมนุม อีกทั้งได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทุกแห่งเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุอันตราย ส่วนในสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ลาราชการ หรือผู้บริหารอยู่ในช่วงใกล้หมดวาระนั้น ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะได้ปฏิบัติตามแผนที่วางไว้