“กษมา” ยันการสร้างรัฐสภาเป็นเรื่องของรัฐบาลตัดสินใจ สพฐ.มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของเด็กเป็นหลัก ส่วนการสั่งหยุดเรียน ผอ.โยธินฯ แจ้งกลัวจราจรติดขัดเพราะมี พธม.ร่วมแจมด้วย แต่จะสอนชดเชยให้เด็ก ส่วนวันที่ 25 ส.ค.นี้ไม่แนะให้ ร.ร.ปิด
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่นายมานพ นพศิริกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบูรณะ (ยบ.) ได้มีคำสั่งให้หยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 วัน และกำหนดสอนชดเชยในวันเสาร์ที่ 23 ส.ค. เพราะทราบว่ากลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนและประชาธิปไตยจะเดินทางมาที่โรงเรียน จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดว่า เรื่องประกาศหยุดเรียนนั้นเป็นอำนาจการตัดสินใจของ ผอ.โรงเรียนที่จะพิจารณาและตัดสินใจ ตนได้สอบถามถึงการหยุดเรียน ก็ได้รับรายงานมาว่า เกรงว่าการจราจรจะติดขัดย่านโรงเรียนจะติดและเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของนักเรียนและประชาชน
ส่วนวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.จะมีการหยุดเรียนหรือไม่ ขณะนี้ตนยังไม่ทราบ แต่ได้บอกกับ ผอ.โรงเรียนไปด้วยว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนย้ายไปบริเวณใดส่วนมากเขาก็ยังทำงานกันตามปกติ แต่สถานที่นั้นๆ มักจะใช้วิธีเตรียมการรับมือมากกว่าปิดสถานที่
นอกจากนั้นทราบว่า วานนี้ (21 ส.ค.) กลุ่มผู้แทนนักเรียนโยธินฯ ได้เดินทางมากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมยื่นแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อนายพงศกร อรรณนพพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่ง รมช.ศธ.ก็ได้รับเรื่อง และตนก็ได้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นลักษณะของการถามว่าทำไมต้องสร้างรัฐสภาบริเวณพื้นที่โรงเรียนโยธินฯ โดยนักเรียนต้องการคำชี้แจงหรือเหตุผลในการเลือกโรงเรียนโยธิน
“การสร้างรัฐสภาครั้งนี้ดำเนินการมาไกลเกินกว่าที่จะมาทำประชาพิจารณ์แล้ว เรื่องนี้ต้องให้รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ ในส่วนของโรงเรียนตนได้กำชับให้ ผอ.โรงเรียนไปทำความเข้าใจกับนักเรียน รวมถึงผู้ปกครองแล้ว และทราบว่าทาง ผอ.ก็ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ปกครองแล้ว”
เมื่อถามว่าขณะนี้เรื่องโรงเรียนโยธินไปเชื่อมโยงกับการเมือง คุณหญิงกษมา บอกว่า การเมืองเข้าไปเกี่ยวได้ทุกเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องของโรงเรียนที่ต้องมีการชี้แจงเหตุผล ส่วน สพฐ.มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์เท่านั้น ในเรื่องการย้ายสถานที่เรียนของนักเรียน ดูแลให้เด็กได้รับประโยชน์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากมีการย้ายจริงก็ต้องใช้เวลาสร้างปี หรือ 2 ปี
